Honda เดินหน้าอีพเดทออฟชั่นและความสดใหม่ของรถ SUV ขายดีที่สุดของค่ายในตลาดสหรัฐฯอย่าง CR-V ด้วยการเปิดตัว Honda CR-V Model Year 2025 ที่มาพร้อมรุ่นย่อยใหม่ “TrailSport Hybrid” ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Honda นำดีไซน์สไตล์ Off-road อย่างตระกูล TrailSport ที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ในรุ่น Passport โดยในคัร้งนี้จะเป็นการผสมผสานกับขุมพลัง Hybrid 2 มอเตอร์ที่ได้รับรางวัลมาแล้วทั่วโลก ด้วยจุดเด่นเรื่องความสามารถลุยทางฝุ่น ทางทราย และหิมะ พร้อมความประหยัดน้ำมันในแบบฉบับรถยนต์ Hybrid

 

ด้านดีไซน์ของรุ่น TrailSport โดดเด่นด้วยกระจังหน้าพร้อมสัญลักษณ์สีส้ม TrailSport กันชนหน้าพร้อมแผ่นกันกระแทกสีเงิน สปอยเลอร์ท้ายสีดำเงา มือจับประตูและขอบกระจกสีดำ ส่วนภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วยโลโก้ TrailSport ที่พนักพิงศีรษะ เบาะหุ้มวัสดุผสมหนัง พื้นปูยางกันเปื้อนและไฟตกแต่งภายในสีอำพันเพิ่มบรรยากาศพรีเมียมยามค่ำคืน

มาพร้อมยาง Continental CrossContact ATR แบบ all-terrain ขนาด 235/60R18 ที่ติดตั้งกัยล้ออัลลอยสี Shark Gray ขนาด 18 นิ้ว ออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะในทุกสภาพถนน ทั้งดิน โคลน ทราย หิมะ หรือพื้นหิน โดยไม่ลดทอนความเงียบและความนุ่มนวลขณะขับบนทางเรียบ

 

ภายในห้องโดยสาร CR-V ปี 2026 ทุกรุ่นย่อยได้รับการอัพเกรดอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน อาทิ หน้าจอ Infotainment ความละเอียด HD ขนาด 9 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นจากเดิม 2 นิ้ว) รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 10.2 นิ้ว (ตั้งแต่รุ่น EX-L ขึ้นไป) ขณะที่รุ่นท็อปอย่าง Sport Touring Hybrid ยังได้ระบบ Google built-in พร้อมแอป Google Assistant Google Maps และ Google Play ใช้งานฟรี 3 ปีแบบไม่จำกัดการดาว์นโหลดอีกด้วย

 

ด้านระบบความปลอดภัย CR-V ยังคงมาตรฐานระดับสูงด้วย Honda Sensing® ที่ประกอบด้วยระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน เซนเซอร์จุดอับสายตา และระบบเตือนผู้โดยสารเบาะหลัง นอกจากนี้ยังติดตั้งถุงลมนิรภัยรวม 10 จุด พร้อมถุงลมเข่าและถุงลมด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น

 

ขุมพลัง Hybrid รุ่นใหม่ล่าสุดใช้ระบบขับเคลื่อน 2 มอเตอร์เจเนอเรชันที่ 4 ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังรวม 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 247 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่ปรับปรุงใหม่ให้สามารถจัดการแรงส่งและแรงเบรกแยกแต่ละล้อได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะความสามารถในการปรับแรงส่งให้เหมาะสมเมื่อล้อหน้า-หลังหมุนไม่เท่ากันที่ความเร็วต่ำ

 

CR-V ปี 2026 จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ในรุ่น LX EX และ EX-L และรุ่นไ Hybrid อีก 4 รุ่น ได้แก่ Sport Hybrid Sport-L Hybrid Sport Touring Hybrid และน้องใหม่อย่าง TrailSport Hybrid ซึ่งวางตำแหน่งไว้ระหว่างรุ่น Sport Hybrid และ Sport-L Hybrid และในปัจจุบันยอดขาย CR-V รุ่น Hybrid มีสัดส่วนมากกว่า 50% ของยอดขาย CR-V ทั้งหมดในสหรัฐฯ

 

สายพานการผลิตของ CR-V และระบบ Hybrid ทั้งหมดตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยชุดระบบ Hybrid ถูกผลิตที่โรงงานในรัฐโอไฮโอ ส่วนตัวรถ CR-V ประกอบที่โรงงานในโอไฮโอ อินเดียนา และแคนาดา เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Honda ในการผลิตใกล้กับตลาดหลัก พร้อมคงคุณภาพระดับโลกในแบบฉบับ Honda

จากความสำเร็จที่ผ่านมา CR-V ยังคงครองตำแหน่งรถ SUV ที่ขายดีที่สุดในอเมริกาตลอด 25 ปี และยังเป็นรถ Honda ที่ขายดีที่สุดในทุกปีนับตั้งแต่ปี 2017 รุ่น TrailSport Hybrid ใหม่นี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการทั้งความสะดวกสบาย ความประหยัด และความสามารถในการลุย พร้อมเทคโนโลยีทันสมัยครบครันในราคาที่สมเหตุสมผล

ที่มา: Honda US