Toyota ยังคงเดินหน้าปรับโฉมรถให้เป็น Model Year 2025 อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกับรถซีดานยอดนิยมอย่าง Camry พร้อมการเปิดตัวรุ่นพิเศษ Nightshade Edition ที่เน้นภาพลักษณ์ดุดันและสปอร์ตขึ้นกว่าที่เคย พร้อมด้วยการตกแต่งชุดแต่งสีดำรอบคัน ระบบกันสะเทือนปรับแต่งพิเศษและขุมพลังไฮบริดที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน

 

Nightshade Edition ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจสายแต่งของดำ (blackout style) โดยภายนอกโดดเด่นด้วยชิ้นส่วนสีดำเงาแบบ Midnight Black Metallic รอบคัน ทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง มือจับประตู สปอยเลอร์ท้าย ช่องอากาศด้านหน้า คานาร์ดและดิฟฟิวเซอร์ท้าย นอกจากนี้ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วสีดำ และตราสัญลักษณ์ Toyota สีดำเงาเพิ่มความเข้มไปอีกขั้น

 

สัสันภายนอกก็มีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉดสีตัดกับสีดำ ได้แก่ Ice Cap (สีขาว) และ Supersonic Red (สีแดงสด) ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความเรียบหรูสามารถเลือกสีดำล้วน Midnight Black Metallic ทั้งคันได้เช่นกัน

 

ภายในห้องโดยสารของ Camry Nightshade Edition ยังคงธีมสีดำไว้อย่างครบถ้วน โดยใช้เบาะหนังสังเคราะห์ SofTex สีดำ ตัดด้วยลวดลายสีขาว ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อม Paddle Shifters แป้นเหยียบอะลูมิเนียม และมาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย เช่น หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว จอกลางสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว และแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน

ขุมพลัง Hybrid ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรุ่นนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็ก ให้พละกำลังรวม 225 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และเพิ่มเป็น 232 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่มีมอเตอร์เสริมที่ล้อหลัง โดยยังคงความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมทั้งรุ่น FWD และ AWD ทำอัตราสิ้นเปลืองได้เท่ากันที่ 19.5 กม./ลิตร

 

นอกจากรุ่น Nightshade Edition แล้ว Camry ปี 2026 ยังมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในรุ่นย่อยอื่นๆ โดยรุ่น SE XLE และ XSE จะมีสีภายนอกใหม่ให้เลือกชื่อว่า Dark Cosmos ซึ่งเป็นโทนสีน้ำเงินเข้มแบบหมอกควัน ให้ความรู้สึกลึกลับและหรูหรายิ่งขึ้น

Camry รุ่นปี 2026 จะเริ่มวางจำหน่ายตามโชว์รูมในสหรัฐฯ ช่วงฤดูร้อนปีนี้ โดยราคาจำหน่ายจะประกาศอีกครั้งใกล้วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม Camry รุ่นปัจจุบันมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 28,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 1.05 ล้านบาท ขณะที่เวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศไทยก็เพื่งจะปรับราคาขึ้นตามสัญญาอีก 20,000 บาท หลังหมดช่วงโปรเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: Carscoops