Nissan Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขายอาคารสำนักงานใหญ่ที่เมือง Yokohama ใกล้กรุง Tokyo เพื่อระดมทุนสำหรับรองรับค่าใช้จ่ายจากการปิดโรงงานและการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี
เมื่ออ้างอิงจากรายงานการประชุมกับนักวิเคราะห์เรื่องผลประกอบการครั้งล่าสุด Nissan อาจต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างเพิ่มอีก 60,000 ล้านเยน (ประมาณ 13,650,270,000 บาท) ภายในปีงบประมาณนี้เพื่อเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูธุรกิจที่ประกาศไว้ก่อนหน้า

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา Nissan ได้รายงานผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 670,900 ล้านเยน สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025 โดยเป็นผลจากการประเมินการด้อยค่าของสินทรัพย์ (impairment loss) จำนวน 460,000 ล้านเยน และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างอีก 60,000 ล้านเยน
Jeremie Papin ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nissan ระบุในการแถลงข่าวว่า “บริษัทยังไม่สามารถประกาศการคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีนี้ได้ เนื่องจากยังต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายการปรับโครงสร้างเพิ่มเติม รวมถึงผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ”
แหล่งข่าวยังเผยอีกว่า “ถึงแม้ Nissan จะขายสำนักงานใหญ่ใน Yokohama ออกไป แต่บริษัทอาจเลือกใช้การเช่าตึกแห่งนี้และใช้งานต่อในระยะยาว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานในภาพรวม

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากยอดขายที่ลดลงทั้งในจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของบริษัท ประกอบกับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้ Nissan ต้องเร่งปรับโครงสร้างทั่วโลก อีกทั้งภายใต้แผนการฟื้นฟูทำให้บริษัทประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ 7 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก พร้อมลดจำนวนพนักงานลงถึง 20,000 คน เพื่อเร่งกลับเข้าสู่การสร้างผลกำไรให้ได้ภายในปีงบประมาณหน้า
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความท้าทายที่ Nissan ต้องเผชิญอย่างต่อเนื่องและการขายทรัพย์สินขนาดใหญ่เช่นอาคารสำนักงานใหญ่นี้ อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายมาตรการที่บริษัทต้องเริ่มบังคับใช้เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดในช่วงเปลี่ยนผ่านแนวทางการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญนี้