Land Rover Defender โฉมปี 2026 เปิดตัวพร้อมการอัปเกรดครั้งสำคัญ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก วัสดุภายใน และเทคโนโลยีเพื่อการผจญภัยในทุกรุ่นตัวถังทั้ง 90 110 และ 130 รวมถึงรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Defender OCTA
Defender โฉมใหม่ได้รับการปรับดีไซน์หลายจุดเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งควบคู่ความหรูหราเช่นเดิม ไฟหน้าถูกออกแบบใหม่พร้อมลวดลายกราฟิกเฉพาะรุ่น ขณะที่ไฟท้ายทรงเดิมถูกปรับเป็นแบบฝังเรียบ พร้อมเลนส์แบบรมดำเพื่อความเรียบหรูและเพิ่มทัศนวิสัยบนเส้นทางทุรกันดาร นอกจากนี้ยังเพิ่ม ไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทุกรุ่น











กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ มาพร้อมพื้นผิวที่ออกแบบให้กลมกลืนกับตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน Silicon Silver หรือสีเทา Carpathian Grey Satin ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย กระจังหน้าสีดำเงาพร้อมโลโก้รูปไข่แบบใหม่และฝาครอบดุมล้อกลางดีไซน์พิเศษพร้อมโลโก้ Defender สีดำเงาทุกคัน
สีตัวถังใหม่ประกอบด้วยสีเทาเมทัลลิก Borasco Grey ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหมืองเงินในรัฐแคลิฟอร์เนีย และสีเขียวเข้ม Woolstone Green เอกลักษณ์ของอังกฤษ โดยใช้เม็ดสีอะลูมิเนียมและไมก้าสีเหลืองเพื่อเพิ่มมิติพิเศษบนพื้นผิวโลหะ
นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ลาย 7 ก้าน สีเทาเข้ม Diamond Turned Dark Grey ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมลุคแข็งแกร่งให้กับตัวรถ





ภายในห้องโดยสารของ Defender ปี 2026 ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 13.1 นิ้ว สำหรับระบบ Infotainment พร้อมแผงเกียร์ที่ปรับตำแหน่งให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น พื้นที่คอนโซลกลางยังได้รับการออกแบบใหม่ด้วยช่องเก็บของแบบเลื่อนเปิด พร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่และช่องชาร์จไฟพร้อมเดินสายได้อย่างเป็นระเบียบ
ในรุ่นที่ติดตั้งชุด Signature Suite จะมาพร้อมกระเป๋าข้างตัวถังแบบถอดได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ในขณะที่ภายในห้องโดยสารยังสามารถเลือกติดตั้งเบาะแถวกลางแบบ ‘jump seat’ เพื่อการนั่งแบบ 3 คนตอนหน้า
Defender ปี 2026 มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำยุคอย่างระบบ Adaptive Off-Road Cruise Control เป็นครั้งแรกในรถตระกูลนี้ โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดจากระบบ All Terrain Progress Control ระบบจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระดับความนุ่มนวลในการขับผ่านพื้นผิวขรุขระ เพื่อให้สามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างเต็มที่ ระบบจะปรับความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาความสบายของผู้โดยสารขณะขับผ่านเส้นทางทุรกันดาร
อีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่คือ Driver Attention Monitor ที่ติดตั้งกล้องเพื่อตรวจสอบการมองของผู้ขับขี่ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ไม่มีสมาธิ ระบบจะส่งเสียงเตือนและแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอ โดยสามารถเปิด-ปิดการทำงานได้ตามต้องการ











ในส่วนของ Defender OCTA คือรุ่นเรือธงที่รวมความแรงและความหรูไว้ในคันเดียว ขับเคลื่อนด้วยขุมเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่และพ่วงด้วยระบบ mild-hybrid ให้พละกำลังสูงสุด 626 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ทำการส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 จังหวะ ที่ช่วยให้การขับขี่สามารถรองรับได้หลากหลายรูปแบบด้วยการปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดตามแต่ละโหมดการขับขี่ โดยผู้ขับขี่สามารถสนุกกับพละกำลังสูงสุดได้ ด้วยการใช้งานโหมด Octa
ช่วงล่างแบบ 6D Dynamics chassis ที่ช่วยลดการโคลงตัวของตัวถัง และระบบเบรกที่ขยายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของจานเบรกเพิ่มขึ้นที่ 15.7 นิ้ว พร้อมคาลิปเปอร์แบบ 6 พ๊อต จาก Brembo พร้อมด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่มีอัตราทดไวกว่า Defender ทุกรุ่น




รุ่น OCTA ยังมีสีตัวถังใหม่ให้เลือกอย่างสีฟ้า Sargasso Blue ที่มีประกายโลหะคล้ายท้องทะเลลึกแห่ง Sargasso Sea และยังสามารถเลือกสีเทา Borasco Grey หรือ Charente Grey และสีทองแดง Petra Copper ที่มีอยู่เดิม อีกหนึ่งทางเลือกคือ Patagonia White Matte Wrap ที่เป็นฟิล์มหุ้มตัวถังสีขาวด้านที่มีให้เลือกสำหรับทั้งรุ่น OCTA และ Defender V8 เครื่องยนต์ 5.0 ลิตร
รายละเอียดภายนอกของรุ่น OCTA ยังตกแต่งด้วยวัสดุ Textured Graphite แบบด้านพร้อมเม็ดสีเมทัลลิก รวมถึงวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ Chopped Carbon Fibre ที่สามารถเลือกได้ทั้งภายในและภายนอก พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเฉพาะตัว เช่น กันชนหน้าและหลัง, ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรง ซุ้มล้อ และชุดตกแต่งตัวอักษร Defender บนฝากระโปรงที่ใช้วัสดุทองแดง Phosphor Bronze





ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งชุดอุปกรณ์เสริมแบบแพ็ก ได้แก่ Explorer Pack Adventure Pack และ Urban Pack พร้อมอุปกรณ์เสริมแบบแยกตามรายการ เช่น แร็คหลังคา Expedition สีดำ แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถแบบสีดำ บันไดข้างแบบพับเก็บได้หรือแบบติดตั้งถาวร และวินช์ลากน้ำหนักสูงสุด 4,500 กิโลกรัม พร้อมฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์ในรุ่น OCTA
Defender 130 ยังสามารถติดตั้งปั๊มลมในตัวเพื่อเติมลมยางระหว่างเดินทางบนทรายหรือพื้นที่ที่ต้องลดแรงดันลมยางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมี สติ๊กเกอร์ฝากระโปรงสีดำด้านแบบใหม่ พร้อมตัวอักษร Defender สำหรับตัวถังทั้ง 90 110 และ 130
ที่มา: Land Rover