Toyota เปิดตัว Aygo X รุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ เสริมทัพด้วยขุมพลัง Hybrid ลุยตลาดรถเล็กในยุโรป ในขณะที่รถยนต์กลุ่ม City car มักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงขุมพลังในแต่ละรอบ Product cycle หรือเจเนอเรชั่น แต่ครั้งนี้ Toyota กลับเลือกที่จะอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Aygo X น้องเล็กสุดท้อง A-segment ในไลน์อัปของแบรนด์ ด้วยการติดตั้งระบบขับเคลื่อน Full Hybrid เป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ GR Sport เติมเต็มความสปอร์ตในทุกมิติ




ด้านหน้าของ Aygo X ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่กันชนหน้า กระจังขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนตกแต่งที่เชื่อมระหว่างไฟหน้าทั้งสองข้าง ช่วยให้ดูโฉบเฉี่ยวและดุดันกว่าเดิม ฝากระโปรงหน้าและโป่งซุ้มล้อหน้าได้รับการออกแบบใหม่ และยังย้ายไฟเลี้ยวไปที่กระจกมองข้าง พร้อมทั้งเพิ่มทางเลือกสีตัวถังใหม่อีกด้วย



ขณะที่ห้องโดยสารภายในได้รับการอัปเกรดหลายจุด เช่น มาตรวัดแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เบรกมือไฟฟ้า (Electronic Parking Brake) พอร์ตชาร์จแบบ USB-C จำนวน 2 ตำแหน่ง ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่ วัสดุเบาะและแผงประตูใช้พลาสติกและผ้าจากวัสดุรีไซเคิล ปราศจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ หน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้วในรุ่นท็อป พร้อมระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ Toyota Safety Sense เวอร์ชันใหม่ที่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA (Over-the-Air)



การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือ การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร เป็นขุมพลัง Hybrid ความจุ 1.5 ลิตร แบบเดียวกับที่ใช้ใน Toyota Yaris เวอร์ชั่นยุโรป ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 116 แรงม้า (PS) มากกว่าเครื่องยนต์บล๊อคเดิมถึง 43 แรงม้า
ระบบส่งกำลังเกียร์ e-CVT ผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ให้การขับขี่นุ่มนวล พร้อมความประหยัดที่เหนือชั้นกว่าเดิม โดย Toyota ระบุว่าสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาน้อยกว่า 10 วินาที และปล่อย CO₂ เพียง 86 กรัม/กม. ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในบรรดารถที่ไม่มีระบบชาร์จไฟภายนอก (non plug-in) ที่มีขายในตลาดยุโรปปัจจุบัน





Aygo X ใหม่ยังคงใช้โครงสร้างงานวิศวกรรมพื้นฐาน TNGA-B platform ร่วมกับ Yaris และ Yaris Cross ซึ่งช่วยให้รองรับชุดขับเคลื่อน Full hybrid ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนพื้นฐานใหม่ แต่ได้ทำการเพิ่มความยาวส่วนหน้ารถอีก 76 มม. เพื่อรองรับขุมพลังใหม่ ทำให้ตัวถังมีความยาวรวมอยู่ที่ 3,776 มม. ขณะที่ระยะฐานล้อยังคงเท่าเดิมที่ 2,430 มม.
ถึงแม้จะเพิ่มระบบ Hybrid แต่พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถยังคงเท่าเดิมที่ 231 ลิตร โดยแบตเตอรี่ Hybrid ถูกติดตั้งแบนราบใต้เบาะหลังและแบตเตอรี่เสริม 12V ถูกย้ายไปไว้ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระ





ที่สำคัญยังเพิ่มรุ่นย่อย Aygo X GR Sport นับเป็นครั้งแรกที่รถกลุ่ม A-Segment ได้รับการปรับแต่งและตกแต่งจากสำนัก Toyota Gazoo Racing โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
- กระจังหน้าลายรังผึ้งดีไซน์เฉพาะ
- ชุดตกแต่งรอบคันแบบ GR พร้อมสัญลักษณ์ GR ทั้งภายนอกและภายใน
- สีเหลือง Mustard ทูโทน พร้อมหลังคาและฝากระโปรงหน้าสีดำ
- ช่วงล่างปรับแต่งใหม่ ทั้งสปริงและโช้กอัพ
- ปรับการตอบสนองของพวงมาลัยให้ไวขึ้น ให้การควบคุมที่แม่นยำยิ่งกว่าเดิม



Aygo X 2025 สร้างปรากฎการณ์ใหม่ของรถเล็กกลุ่ม A-segment ในยุโรป โดยไม่เพียงแค่ปรับโฉมภายนอกและภายในเท่านั้น แต่ยังนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่างระบบ Full hybrid ที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตด้วยรุ่นย่อยใหม่ GR Sport ตอบโจทย์ทั้งความประหยัด ความแรง และความเท่ในคันเดียว
Toyota เตรียมเปิดตัว Aygo X 2025 สู่ตลาดยุโรปและสหราชอาณาจักรช่วงปลายปี 2025 โดยราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะ มีราคาสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า แต่จะต้องต่ำกว่า Yaris Hybrid ซึ่งเริ่มต้นที่ 23,445 ปอนด์ หรือประมาณ 1,034,409 บาท
ที่มา: Carscoops