ภาพคันจริง MG 3 Hybrid+ X
27 พฤษภาคม 2025 เวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ
พี่ Mark : “พี่เอารถมาล้างให้แล้ว กำลังจะเอารถเข้าไปให้นะ … เห้ยๆๆ ฝนตก อย่านะอย่าาาา”
Sank : “แดดดี มาทั้งวัน ฝนดันมาตกตอนพี่ล้างรถ และเอารถมาให้ผมไปถ่ายอีกแล้ว ฮ่าๆๆ”
หลังจากฝนหยุดตก(เท่าเยี่ยวเล็ด จะตกทำไม!!) ผมรีบกระโดดขึ้นรถ ปรับท่านั่งให้เรียบร้อยเพื่อออกไปยังโลเคชั่น
สิ่งแรกที่สัมผัสได้หลังจากขับ MG3 Hybrid+ มาได้สักพักคือ ทำไมมันพุ่งดีจัง พอได้จังหวะพ้นจากด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ก็ค่อยๆนวดคันเร่งลงไป ตัวเลขความเร็วบนมาตรวัดขึ้นไว ไหลมาเป็นเทน้ำเทท่า จนต้องถอนเท้าออกจากคันเร่งสักหน่อย
แต่พอขับไปสักพักจังหวะที่ต้องเร่งแซง พอกดคันเร่งลงไป…เอ้าทำไมเร่งขึ้นช้า แต่พอเหลือบไปมองมาตรวัดก็ถึงบางอ้อเมื่อพบว่าปริมาณแบตเตอรี่นั้นเหลือแค่ 2 ขีด!!
พี่ J!MMY อธิบายถึงถึงอาการดังกล่าว ไว้ว่า
“อุณหภูมิและปริมาณไฟในแบตเตอรี่มีผลต่ออัตราเร่งจริง คือ ถ้าอุณหภูมิของแบตยังไม่มาก ไฟในแบตเตอรี่ เหลือมาก อัตราเร่งจะดี แต่ถ้าอุณหภูมิแบตเตอรี่สูง ไฟในแบตเตอรี่เหลือน้อย ก็ส่งผลให้อัตราเร่ง Drop ลง”
ใครอยากรู้ ตัวเลขผลทดสอบ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง ที่พี่ J!MMY และพี่ Mark ได้ทดสอบไว้ตามมาตรฐาน Headlightmag (ทดลองในเวลากลางคืน เปิดแอร์ ผู้โดยสารและผู้ขับขี่รวม 2 คน) อ่านได้ที่นี่
ผมเข้าไปดูแล้ว ถึงกับ ต้องอุทานว่า ห๊ะ!!เอาจริงดิ เพราะผลทดสอบของเจ้านี่ มันปีนขึ้นมาอยู่บนหัวตารางเลย มิน่าทำให้เราประทับใจได้
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมชอบ MG 3 Hybrid+ คือการเลือกใช้สีภายในทั้งตัวเบาะและผ้าบุหลังคาสีสว่าง ทำให้รู้สึกโปร่งและไม่อึดอัด
แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอ ถ้าเกิดว่าไม่มากไป … ช่วยปรับปรุงเครื่องเสียงอีกหน่อยได้ไหม? (เครื่องเสียงใน Honda City ปี 2008 ในตำนานยังดีกว่าอีก) จะปรับจากซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในจอกลาง เพื่อให้ปรับจูนย่านเสียงได้มากขึ้นก็ยังคงพอฟังได้เพราะหูมากกว่านี้
เอาล่ะ พล่ามมาพอประมาณ สำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังสนใจรถรุ่นนี้ ผมเก็บภาพรอบคันทั้งภายนอกและภายในมาให้ชมกันไปพลางๆ ก่อน
แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากชม Full Review แบบละเอียดยิบ ในแบบของพี่ J!MMY ทั้งบทความและ Clip Video รอติดตามชมได้เร็วๆนี้


ราคาอย่างเป็นทางการ
- MG 3 Hybrid+ X : 619,900 บาท
มาพร้อมการรับประกันและบริการ ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranry 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
- รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง












ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว 4,113 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,797 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,502 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ Ground Clearance 117 มิลลิเมตร
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 293 ลิตร และ 1,037 ลิตร เมื่อพับเบาะ




เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 82.0 x 92.0 มิลลิเมตร พร้อมระบบแปรผันวาล์ว DVVT กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 128 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พละกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 143 กิโลวัตต์ หรือ 194 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 1.83 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-AT 3 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ความจุถังนำ้มัน 36 ลิตร
อัตราทดเกียร์ มีดังนี้
- เกียร์ 1 ………………. 1.598
- เกียร์ 2 ………………. 1.000
- เกียร์ 3 ………………. 0.697
- เกียร์ถอยหลัง ……… 7.917
- เฟืองท้าย ……………. 3.7502
โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่
- ECO
- NORMAL
- SPORT
มีระบบปรับแรงหน่วงจากการกู้คืนพลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้า หรือระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย




















อุปกรณ์ภายนอก
Exterior Options
- ไฟหน้าแบบ Projector Lens LED
- ระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง Follow-Me-Home
- ไฟท้ายแบบ LED
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน DRL แบบ LED
- กระจกมองข้างปรับ – พับด้วยไฟฟ้า
- ระบบพับกระจกอัตโนมัติ เมื่อล็อกรถ
- ระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลาได้
- ใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
- ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
- ยาง ขนาด 19/55 R16
- ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
- ช่วงล่างด้านหลังแบบคานบิด กึ่งอิสระ Torsion Beam
- ระบบเบรกแบบจานเบรก 4 ล้อ
- พวงมาลัยแบบ Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.25 ปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้ 3 ระดับ ได้แก่
- ในเมือง
- มาตรฐาน
- สปอร์ต

























































อุปกรณ์ภายใน
Interior Options
- เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้า สี 2-tone ขาวสลับดำ
- เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้
- พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์ บนพวงมาลัย
- กระจกหน้าต่างปรับด้วยไฟฟ้า แบบ One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
- หน้าจอชุดมาตรวัด Digital Multi – Function ขนาด 7 นิ้ว
- กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศ พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ไฟส่องสว่างบริเวณห้องโดยสารด้านหลัง
- ระบบกุญแจรีโมท Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start

































ระบบความบันเทิงและระบบเชื่อมต่อ
Entertainment & Connect System
- หน้าจองกลางระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android แบบไร้สาย
- ชุดเครื่องเสียง พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ช่องชาร์จ USB-A 2 ตำแหน่ง
- ช่องเชื่อมต่อ USB-C 1 ตำแหน่ง
- แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
- ช่องจ่ายไฟ 12V 1 ตำแหน่ง















ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่
Safety System & Driving Assistance
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
- ม่านถุงลมนิรภัย
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
- ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
- ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

สีตัวถังภายนอก
Exterior Colors
มีให้เลือก 6 สี ดังนี้
- สีขาว ARCTIC WHITE
- สีดำ BLACK KNIGHT
- สีเงิน METAL ASH GREY (เฉพาะรุ่น X)
- สีแดง SCARLET RED
- สีฟ้า ST.MORITZ BLUE
- สีเหลือง PASTEL YELLOW (เฉพาะรุ่น X)
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ MG 3 Hybrid+