Kia Sportage ถือเป็นหนึ่งในรถ SUV ที่ขายดีที่สุดในสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่เจเนอเรชั่นก่อนหน้าเมื่อปี 2016 ในขณะที่รุ่นฐานล้อยาว (LWB) สำหรับตลาดเกาหลีใต้และอเมริกาเหนือได้ปรับโฉมไปก่อนหน้าเมื่อปี 2024 คราวนี้ก็ถึงคิวของรุ่นฐานล้อสั้น (SWB) จะได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในโชว์รูมทั่วอังกฤษช่วงฤดูร้อนปีนี้ พร้อมตัวเลือกขุมพลังเบนซินและ Hybrid แบบครบไลน์อัพ




Sportage รุ่นปรับโฉมได้รับการตกแต่งใหม่ให้เข้ากับดีไซน์ของรถรุ่นใหม่ในตระกูลเดียวกันอย่าง Kia Picanto Sorento และ EV3 โดยด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้าแนวตั้งและกระจังหน้าทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังเสริมความโดดเด่นด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่รับกับกันชนที่ออกแบบใหม่
จากการปรับเปลี่ยนนี้ ตัวรถจึงมีความยาวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4,515 มม. เป็น 4,540 มม. ขณะที่ความสูง (1,650 มม.) ความกว้าง (1,865 มม.) และระยะฐานล้อ (2,680 มม.) ยังคงเดิม





ภายในห้องโดยสาร Sportage ใหม่ได้รับการปรับปรุงในส่วนที่มองเห็นได้ชัด โดยมาพร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้วคู่แบบโค้ง รองรับระบบปฏิบัติการ ccNC เวอร์ชันใหม่ของ Kia ที่ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้นพวงมาลัยออกแบบใหม่เป็นแบบ 2 ก้าน และยังคงมีแผงควบคุมระบบสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางสำหรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบปรับอากาศ
เบาะโดยสารรองรับผู้โดยสารได้ 5 คน โดยเบาะนั่งแถวหลังสามารถพับแยกได้แบบ 40:20:40 โดยความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 562 ลิตร สำหรับรุ่นเบนซิน และ 587 ลิตร สำหรับรุ่น Hybrid เมื่อพับเบาะหลังลงทั้งหมด พื้นที่เก็บสัมภาระจะเพิ่มเป็น 1,751 ลิตร สำหรับรุ่นเบนซิน และ 1,776 ลิตร สำหรับรุ่น Hybrid





ในรุ่นเริ่มต้นอย่าง Kia Sportage ได้เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้พละกำลังสูงสุด 148 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า โดยมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ
ลูกค้ายังสามารถขยับขึ้นไปที่รุ่น Hybrid ซึ่งเป็นไฮไลต์ของรุ่นปรับโฉมนี้ ที่เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ให้พละกำลังรวมสูงถึง 236 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าหรือเพิ่มเงินเพื่ออัพเกรดเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ในขณะที่รุ่น Plug-in hybrid ที่ทรงพลังถึง 261 แรงม้ายังไม่พร้อมวางจำหน่ายในช่วงแรก แต่คาดว่าจะกลับมาใีให้เลือกในภายหลัง












Kia ได้เพิ่มวัสดุซับเสียงรอบเสา B และแผงประตูเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนน ทำให้ Sportage รุ่นใหม่นี้เป็นรุ่นที่ “เงียบที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ตามคำกล่าวของ Sjoerd Knipping ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Kia Europe







แม้ Kia ยังไม่เปิดเผยราคาจำหน่ายของ Sportage รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นที่ 30,170 ปอนด์ หรือประมาณ 1.4 ล้านบาท
ที่มา: Kia EU , Autocar UK