หลังจากที่ Mazda เผยโฉม CX-60 ในงาน KLIMS 2024 (Kuala Lumpur International Mobility Show 2024) ก็ได้เริ่มเปิดรับจองอย่างเป็นทางการในประเทศมาเลเซียแล้วผ่านเว็บไซต์ของ Mazda Malaysia การเปิดจองครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Mazda ในการเจาะตลาด SUV พรีเมียมระดับกลางของมาเลเซีย  ที่มีการแข่งขันดุเดือดจากค่ายยุโรป เช่น BMW Mercedes-Benz และ Volvo

Mazda CX-60 พัฒนาขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐานใหม่ล่าสุด Skyactiv Multi-Solution Scalable Architecture ที่รองรับการออกแบบให้เครื่องยนต์วางตามแนวยาว (เหมือนรถยุโรประดับหรู) ทำให้มีสมรรถนะการทรงตัวและบาลานซ์ของน้ำหนักที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ดีไซน์ภายนอกยังคงใช้แนวคิด “Kodo Design” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยพลัง มีสัดส่วนตัวถังที่ยาวขึ้นและเส้นสายที่เฉียบคม ไฟหน้าเรียวบาง พร้อมกระจังหน้าแนวนอนขนาดใหญ่ที่ให้ภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง

 

โดย CX-60 ที่วางจำหน่ายในมาเลเซียเป็นการนำเข้าทั้งคันในรูปแบบ CBU (Completely Built-Up) จากญี่ปุ่นและมีให้เลือกทั้งหมด 5 สีมาตรฐาน

ได้แก่

  • Soul Red Crystal – สีแดงเมทัลลิกสุดโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mazda
  • Jet Black – สีดำหรูดูสุขุม
  • Zircon Sand – สีทองทรายสุดพรีเมียม
  • Platinum Quartz – สีเบจเงินเมทัลลิก
  • Rhodium White – สีขาวไข่มุกโทนหรูที่ใช้ในรุ่นพรีเมียมของ Mazda

ทั้ง 5 สีนี้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ “Less is More” และแนวคิด Japanese Premium ที่ Mazda เน้นย้ำในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆของค่าย

 

 

หากอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์การจองและใบราคาจาก Mazda Malaysia โดยคร่าว บ่งชี้ว่า CX-60 เวอร์ชันมาเลเซียจะมาพร้อมขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร 4 สูบ ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 188 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบใหม่ โดยใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น และเป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ใช้ใน Mazda CX-5 รุ่นปัจจุบัน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการขับขี่ที่สมดุล แม้จะไม่ได้แรงที่สุดในคลาส แต่ก็เน้นความนุ่มนวลและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม

ขณะที่ขุมพลังอื่นๆ ที่ตลาดมาเลเซียไม่สามารถเลือกได้ มีดังนี้

  • เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.3 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์
  • เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร e-SKYACTIV X ไร้ระบบอัดอากาศ
  • เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ความจุ 3.3 ลิตร พร้อมระบบ MHEV (Mild Hybrid)
  • Plug-in Hybrid (PHEV) ซึ่งในตลาดญี่ปุ่นและยุโรปถือว่ารุ่น PHEV ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยพละกำลังรวมสูงถึง 327 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร จากการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาด 17.8 kWh ที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 71 กม. (ตามมาตรฐาน WLTC)

 

ภายในห้องโดยสาร มาในโทนพรีเมียม โดยใช้วัสดุตกแต่งที่เน้นงานฝีมือแบบญี่ปุ่น เช่น แผงแดชบอร์ดหุ้มด้วยหนังกลับ Rough-out ลายไม้แท้แบบ Open-Pore ที่ให้สัมผัสธรรมชาติ เบาะหนังทูโทน และการเย็บตะเข็บแบบละเอียด โดดเด่นด้วยหน้าจอระบบ Infotainment ขนาดใหญ่ รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto/Apple CarPlay ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) อย่างครบครัน

CX-60 คือก้าวแรกของ Mazda ในการรุกตลาดระดับบนภายใต้แผน “Mazda Premium” ที่วางเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์ใหม่สามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ยุโรปชื่อดัง ทั้ง BMW X3 Mercedes-Benz GLC และ Volvo XC60 โดยไม่ละทิ้งปรัชญาในการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นในเรื่องความเรียบง่ายและสมดุล

ลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงแม้ยังไม่มีรายละเอียดทั้งหมดของสเปกที่วางจำหน่าย คาดว่าจะพร้อมส่งมอบล็อตแรกในเร็วๆ นี้ ด้วยราคาเริ่มต้น 200,510 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 1,543,433 บาท

ที่มา: Autobuzz