Aston Martin เฉลิมฉลองการกลับสู่เวทีสูงสุดของการแข่งขันด้วยการเปิดตัว Valkyrie LM ไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษแบบ non-homologated หรือแบบที่ไม่ผ่านการตรวจสอบโดย FIA ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 10 คันทั่วโลก และเป็นเวอร์ชันเฉพาะที่พัฒนาขึ้นจากรถแข่ง Valkyrie ที่ลงสนาม 24 Hours of Le Mans

 

Valkyrie LM ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทั้งอดีตและอนาคตของแบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในสนาม Le Mans นับตั้งแต่การลงแข่งขันครั้งแรกในปี 1928 โดยในปีนี้ Aston Martin ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในกลุ่ม Overall ที่เคยคว้ามาได้ครั้งสุดท้ายในปี 1959 กับรถแข่ง DBR1 ของ Roy Salvadori และ Carroll Shelby

 

Valkyrie LM ถือกำเนิดจากรถแข่ง Valkyrie Hypercar ที่พัฒนาเพื่อแข่งขันภายใต้กฎ FIA Hypercar ซึ่งจะลงสนามในรายการ WEC 2025 และ IMSA WeatherTech SportsCar Championship ที่อเมริกาเหนือ โดย Valkyrie LM ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.5 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ พัฒนาโดยสำนัก Cosworth สัญชาติอังกฤษที่ได้รับการปรับจูนให้ได้พละกำลังสูงสุดตามข้อกำหนดที่ 697 แรงม้า เช่นเดียวกับรถแข่ง

แม้จะถอดแบบมาจากรถแข่งเต็มรูปแบบ Valkyrie LM ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานโดยนักขับมือสมัครเล่น โดยได้ถอดอุปกรณ์เฉพาะ FIA เช่น ballast และชุดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการแข่งขัน ปรับ Interface ภายในห้องโดยสารให้เหมาะกับการขับในรูปแบบ Track Day ใช้ระบบควบคุมแรงบิดแบบ open-loop แทน closed-loop รวมไปถึงการที่เครื่องยนต์ V12 ได้รับการปรับให้สามารถใช้เชื้อเพลิงทั่วไปที่หาเติมได้ง่าย

 

ระบบส่งกำลังยังคงเป็นเกียร์แบบ sequential 7 จังหวะ พร้อม Paddle Shift เหมือนในรถแข่ง โครงสร้างช่วงล่างเป็นแบบปีกนกคู่พร้อม pushrod และโช้กอัพปรับระดับได้ พร้อมยางสมรรถนะสูงที่พัฒนาร่วมกับ Pirelli โดยเฉพาะ

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่ง Full bucket seat พร้อมรองรับไหล่และศีรษะ ติดตั้งเข็มขัดนิรภัย 6 จุดมาตรฐาน FIA 8853 ระบบดับเพลิงในตัวและพวงมาลัยพร้อมจอแสดงผลกับไฟเปลี่ยนเกียร์

 

ผู้ที่ได้ครอบครอง Valkyrie LM จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรมขับขี่สุดพิเศษที่ดูแลโดยทีมวิศวกรและนักแข่งมืออาชีพของ Aston Martin แบบ Fly-in-and-drive ซึ่งรวมถึง

  • การขนส่งรถไปยังสนามแข่งมาตรฐาน F1 ที่กำหนด
  • การจัดเก็บและดูแลรถแบบมืออาชีพโดย Aston Martin
  • โปรแกรมฝึกฝนผ่าน Racing Simulator track walk classroom และ one-on-one coaching
  • วิเคราะห์ข้อมูลการขับด้วย telemetry และวิดีโอ onboard
  • ชุดอุปกรณ์ขับขี่ครบเซ็ต ประกอบไปด้วย หมวก ชุดแข่ง ถุงมือ รองเท้าบูท HANS อินเตอร์คอมและอุปกรณ์กันไฟ
  • โปรแกรมส่งมอบตัวรถและคอร์สต่างๆจะเริ่มต้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2026 พร้อมกิจกรรม Track Day อีก 2 ครั้งในไตรมาสที่ 3 และ 4 ณ สนามแข่งระดับ F1 โดยโปรแกรมปีแรกจะสิ้นสุดลงด้วยงานดินเนอร์พิเศษ ณ สำนักงานใหญ่ของ Aston Martin ที่เมือง Gaydon ประเทศอังกฤษ

ที่มา: Aston Martin