ตลาดรถ EV ขนาดเล็กที่เหมาะกับการเดินทางในเมืองใหญ่ ผ่านการทะลุซอกซอยที่แคบกว่าถนนปกติ เป็นตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังให้ความสนใจ โดยเฉพาะรถยนต์เพื่อการพาณิชย์กลุ่ม Kei-car ที่ค่ายรถยนต์แดนปลาดิบต่างให้ความสนใจกันถ้วนหน้ามาโดยตลอดในพ.ศ. นี้



อย่างไรก็ตามด้วย Sizing ของรถ EV ที่สามารถทำให้เล็กลงได้อีกขั้น โดยเฉพาะขนาดที่นั่งสำหรับคนขับเพียง 1 ท่าน และสัมภาระเพียงเล็กน้อย ที่สามารถลัดเลาะไปตามไหล่เขาในย่านชุมชนได้เป็นอย่างดี และเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้เล่นสัญชาติญี่ปุ่นลงมาแข่งขัน จนทำให้บริษัท KG Motors สตาร์ทอัพเจ้าถิ่นได้เห็นช่องว่างของตลาดนี้ และเลือกเปิดตัว Mibot รถ EV ขนาดย่อมที่มีขนาดใกล้เคียงกับรถ EV จิ๋วอีกฝั่งซีกโลกอย่าง Citroën Ami
ภาพในหัวของหลายคนอาจลอยไปถึงจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิต EV ราคาประหยัดออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นกีฬาประจำชาติ แต่ตอนนี้มีสตาร์ทอัปจากญี่ปุ่นรายหนึ่งที่พร้อมก้าวออกมาจากเงามืด ด้วยเป้าหมายเขย่าวงการ EV ในประเทศตัวเองผ่านยานยนต์ที่เล็กยิ่งกว่า Kei car




Mibot รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วจากบริษัท KG Motors ที่มีขนาดเล็กพอๆ กับ Citroën Ami จากยุโรป และเล็กยิ่งกว่า Kei car แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่น่าทึ่งคือมันมีขนาดเล็กมากจนสามารถนำไปวางไว้ในพื้นที่ด้านหลังของ Toyota HiAce ได้ทั้งคัน
Mibot มีความยาวตัวถังเพียง 2,490 มม. จนสามารถนำไปวางไว้ในพื้นที่ด้านหลังของ Toyota HiAce ได้ทั้งคัน เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ให้ระยะทางวิ่งประมาณ 100 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมือง ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 60 กม./ชม. เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
แม้จะเพิ่งก่อตั้งบริษัทเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 แต่ KG Motors ก็สามารถส่งมอบ Mibot ไปแล้วจำนวนกว่า 2,250 คัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับสถิติการขายของแบรนด์ญี่ปุ่นเอง เช่น Toyota ที่สามารถขายรถ EV ในประเทศได้เพียง 2,000 คันในปี 2024 ขณะที่แบรนด์จีนอย่าง BYD ที่กำลังเติบโตในระดับโลกก็ยังทำยอดได้ประมาณ 2,200 คัน เมื่อรวมยอดขายจากรุ่น Dolphin ATTO 3 และ Seal ในญี่ปุ่น



หนึ่งในจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของ Mibot คือ ราคาเปิดตัวเพียง 1 ล้านเยน หรือประมาณ 250,000 บาท ซึ่งถือว่าย่อมเยาว์ที่สุดในตลาด ด้วยราคานี้ Mibot จึงอาจกลายเป็น “รถของเล่น” โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ต้องการยานพาหนะขนาดกะทัดรัดสำหรับเดินทางใกล้บ้านหรือใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องมีระบบซับซ้อน
Kusunoki กล่าวกับ Bloomberg ว่า “Toyota บอกว่า EV ไม่ใช่คำตอบเดียว และเพราะเป็น Toyota คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงเชื่อได้สนิทใจ” เขาหวังว่า Mibot จะเป็นตัวจุดประกายจตลาดญี่ปุ่นเปิดใจกับรถ EV มากขึ้นและเห็นว่ารถ EV อาจไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือต้องมีเทคโนโลยีล้ำยุคเสนมอไป



KG Motors ตั้งเป้าว่าจะมีศักยภาพการผลิตอยู่ที่ 3,300 คันต่อปี แต่ภายหลังจากล็อตแรกขายหมดไป บริษัทก็มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10,000 คันต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่น่าจับตา สอดคล้องกับยอดขายเริ่มต้นและกระแสตอบรับ Mibot ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “ความต้องการรถ EV ขนาดเล็กและเรียบง่าย” มีอยู่จริงในญี่ปุ่นและอาจมากกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้เสียอีก
ที่มา: Carscoops