คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารถ EV จากจีนยังคงครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก โดยข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรแห่งประเทศจีน (General Administration of Customs) ระบุว่ายอดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2025 ขยายตัวถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จีน Chery ยังคงรั้งอันดับ 1 ด้วยยอดส่งออก 250,800 คัน ตลอดระยะเวลา 5 เดือนตามมาด้วย MG (ภายใต้เครือ SAIC) ที่ครอบอันดับ 2 ด้วยยอดส่งออกจำนวน 168,700 คัน และ Geely ขึ้นแท่นอันดับที่ 3 ด้วยยอดส่งออก 160,900 คัน เพิ่มขึ้นถึง 103.3% จากปีก่อน

Geely ยังมีความก้าวหน้าด้านตลาดยุโรปอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการส่งออกไปยังทวีปยุโรปถึง 70,600 คัน ในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงการขยายตัวในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและมีมาตรฐานเข้มงวด

ถึงแม้จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน แต่ BYD กลับตกลงมาอยู่ในอันดับ 4 ด้วยยอดส่งออก 159,300 คัน โดยน่าสังเกตว่าในจำนวนนี้ มีเพียง 61.05% ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ขณะที่ยอดส่งออกที่เหลือเป็นรถแบบ Plug-in hybrid (PHEV) ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการในตลาดโลกที่ยังคงนิยมระบบขับเคลื่อนแบบมีเครื่องยนต์สันดาปผสมผสานเป็นต้นกำเนินกำลังด้วยข้อจำกันนานับประการมากกว่ารถไฟฟ้าล้วน

อันดับที่ 5 เป็นของ Haval ด้วยยอดส่งออกรวม 90,700 คัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ส่วนใหญ่เกือบ 95.35% ยังเป็น รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) แสดงให้เห็นว่าภาพรวมของแบรนด์ยังเน้นรถยนต์น้ำมันเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกที่สวนทางกับผู้ผลิตรายอื่น ได้แก่ Changan ที่มียอดส่งออก 82,100 คัน ลดลงถึง 29.1% กลายเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวในกลุ่มผู้นำที่มียอดขายลดลงในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
เมื่อแบ่งตามจำนวนยอดส่งออกของแบรนด์จีน 10 อันดับแรกตลอดระยะเวลา 5 เดือนของปี 2025 สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม:
- มากกว่า 150,000 คัน: Chery MG Geely BYD
- ระหว่าง 50,000–100,000 คัน: Haval Changan
- ต่ำกว่า 50,000 คัน: Roewe Jetour Trumpchi JAC
รัฐบาลจีนแจ้งว่า “การส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยรวมอยู่ที่ 6.22 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 28 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.2% โดยยอดจากอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นสัดส่วน 58.3% ของการส่งออกทั้งหมด เฉพาะในเดือนพฤษภาคม ที่การส่งออกจีนโตขึ้น 6.3%
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากกฎระเบียบระหว่างประเทศและมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในยุโรปและสหรัฐฯ แต่การเติบโตของการส่งออก EV และสินค้ากลุ่มอุตส
ที่มา: Carnewschina