ในปี 2025 Ford Performance กลับเข้าสู่การแข่งขัน Pikes Peak International Hill Climb สนามแข่งบนภูเขาที่โด่งดังที่สุดในอเมริกา พร้อมกับอสูรร้ายพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและความดุดัน อย่าง Ford Performance Super Mustang Mach-E Electric Demonstrator
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาในปีก่อนด้วย E-Transit SuperVan 4.2 และคว้าชัยชนะด้วย F-150 Lightning SuperTruck เมื่อปีที่แล้ว ฟอร์ดกลับมาพร้อมแนวคิดใหม่ “เบากว่า แรงกว่า และเฉียบคมยิ่งขึ้น” บนเส้นทางระยะทาง 12.42 ไมล์ ที่มีถึง 156 โค้ง มุ่งหน้าสู่ความสูง 14,115 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล


Super Mustang Mach-E ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ Mustang Mach-E รุ่นถนน ที่เรารู้จักกันดี แต่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อการแข่งขันอย่างแท้จริง โดยทีมออกแบบของ Ford Design ร่วมกับทีมวิศวกรรมด้านอากาศพลศาสตร์ ช่วงล่าง และระบบควบคุมตัวรถ พร้อมการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง STARD Advanced Research and Development
จุดเด่นของ Super Mustang Mach-E คือ น้ำหนักที่ลดลงกว่า 113 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ SuperTruck รุ่นก่อนหน้า ทำให้มีความคล่องตัวและการกระจายน้ำหนักที่ดีขึ้น


ขุมพลังหลักคือมอเตอร์ UHP 6-Phase จำนวน 3 ตัว ที่ให้พละกำลังรวมกว่า 1,400 แรงม้า ผสานกับแบตเตอรี่สมรรถนะสูงความจุ 50 kWh ที่ทำงานด้วยแรงดันไฟฟ้า 799 V ทำให้รถแข่งคันนี้มีพลังมหาศาลในการปีนเขา พร้อมระบบ Regenerative Braking ที่สามารถสร้างแรงเบรกย้อนกลับได้สูงถึง 710 kW ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากขณะเข้าโค้งบนพื้นที่สูงที่ต้องการการควบคุมอย่างแม่นยำ
ความสามารถด้านอากาศพลศาสตร์โดดเด่นด้วยแรงกดอากาศที่มากถึง 6,900 ปอนด์ (ที่ความเร็ว 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงแม้ในโค้งความเร็วสูง


Romain Dumas ตำนานนักแข่งผู้ครองสถิติเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ Pikes Peak จะมาเป็นผู้ควบคุม Super Mustang Mach-E ลงแข่งขันในปีนี้ นับเป็นการลงแข่งที่ Pikes Peak ครั้งที่ 10 ของเขาและเป็นครั้งที่ 3 กับ Ford Performance ซึ่งเป็นที่มาของหมายเลขรถ “310” ที่ใช้ลงสนามในปีนี้
สำหรับ Ford แล้ว Pikes Peak ไม่ได้เป็นเพียงสนามแข่ง แต่คือห้องทดลองกลางแจ้งขนาดยักษ์ ทุกข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับงานวิศวกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิแบตเตอรี่ การจัดการความร้อน หรือประสิทธิภาพการเบรก ล้วนถูกนำไปใช้ในการพัฒนา EV รุ่นต่อๆ ไป ที่ลูกค้าจะได้ใช้จริงในอนาคต


นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ฟอร์ดส่งรถไฟฟ้าต้นแบบเข้าร่วมศึกนี้ แต่ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่นี่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1916 กับ Ford Model T เพียง 10 ปีหลังจากที่ Henry Ford คว้าชัยชนะครั้งแรกในปี 1901 จนถึงวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมากว่าศตวรรษ ฟอร์ดก็ยังคงเดินหน้าสู่ยอดเขาเช่นเดิม
ที่มา: Ford