แม้รถ EV จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปทั่วทั้งยุโรป แต่ Tesla กลับเผชิญวิกฤติยอดขายอย่างหนัก โดยในเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา ยอดขายของ Tesla ลดลงถึง 27.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ยอดขายของแบรนด์อเมริกันรายนี้ลดลงในภูมิภาคยุโรป ขณะที่ตลาดรถ EV ทั้งหมดในยุโรปกลับเติบโตขึ้น 27.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน
นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ยอดขาย Tesla ในยุโรปลดลงรวมแล้วกว่า 37.1% จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป แม้ว่าจะมีการเปิดตัว Model Y รุ่นปรับโฉมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดแนวโน้มขาลงดังกล่าว



หากย้อนกลับไปในปี 2023 Tesla Model Y เคยได้รับความนิยมอย่างสูงจนกลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดในยุโรป แต่ดูเหมือนว่าความนิยมของ Tesla จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว สังเกตได้จากการที่ผู้บริโภคเริ่มหันหลังให้แบรนด์และเลือกค่ายรถอื่นแทนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้บริโภคยุโรปมีตัวเลือก EV เพิ่มมากขึ้นจากแบรนด์ทั้งยุโรป จีน และญี่ปุ่น
ข้อมูลจากเดือนพฤษภาคม 2025 ชี้ให้เห็นว่ายอดขายรถ EV มีสัดส่วนถึง 15.4% ของยอดขายรถทั้งหมดในยุโรป เพิ่มขึ้นจาก 12.5% ในช่วงเดียวกันของปี 2024 ขณะเดียวกันยอดขายรถ Hybrid ก็เติบโตขึ้น 14.2% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดถึง 34.1% แซงหน้ารถเบนซินล้วนที่อยู่ที่ 28.5% ส่วนรถ Plug-in Hybrid ก็เพิ่มขึ้นถึง 46.1% คิดเป็น 9.4% ของตลาด จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 6.5%

ในขณะที่ Tesla ต้องเจอกับภาวะถดถอย แบรนด์อื่นกลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น Mini ที่มีอัตราการเติบโต 29.1% Alfa Romeo เพิ่มขึ้น 21.5% MG จากจีน (ภายใต้กลุ่ม SAIC) โตถึง 22.5% และ Cupra พุ่งแรงถึง 32.4% ขณะที่แบรนด์ในเครือเดียวกันอย่าง Seat กลับตกลง 25.4%
แนวโน้มยอดขายของ Tesla ในยุโรปจึงไม่ใช่แค่สะดุดเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณชัดเจนว่าตลาดกำลังเปลี่ยนผ่านและ Tesla อาจต้องปรับกลยุทธ์อย่างจริงจังเพื่อฟื้นความนิยมในภูมิภาคที่เคยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของบริษัท