BYD และบริษัทในเครือรายงานยอดขายรถยนต์นั่งตลอดเดือนมิถุนายน 2025 ที่ 377,628 คัน เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นยอดขายรายเดือนที่สูงที่สุดของบริษัทในปีนี้ แม้จะใกล้เคียงกับยอดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ในยอดขายจำนวนนี้ รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) มีสัดส่วน 206,884 คัน (54.8%) เพิ่มขึ้นถึง 42.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รถ Plug-in hybrid (PHEV) อยู่ที่ 170,744 คัน (45.2%) ลดลง 12.5% ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ยอดขาย BEV มีสัดส่วนเกินครึ่งของยอดขายทั้งหมดและยังเป็นครั้งแรกที่ BYD มียอดขาย BEV ทะลุ 200,000 คันต่อเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

 

ด้านตลาดส่งออก BYD ทำสถิติใหม่ด้วยยอดขายจำนวน 90,049 คัน เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 233.6% จาก 30,014 คันในเดือนมิถุนายนปี 2024 โดยการเติบโตของตลาดส่งออกยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ โดยรวมถึงแบรนด์ในเครืออย่าง Denza Fang Cheng Bao (FCB) และ Yangwang

หากรวบรวมยอดขายช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025 (มกราคม – มิถุนายน) BYD ทำยอดไปแล้ว 2,113,271 คัน เพิ่มขึ้น 31.5% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024 ที่มียอด 1,607,145 คัน ขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 5.5 ล้านคัน ที่ตั้งไว้สำหรับปี 2025 นี้

 

 

BYD ยุติการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 และมุ่งเน้นเฉพาะการจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้แก่ BEV และ PHEV เท่านั้น

ในเดือนมิถุนายน 2025 บริษัทผลิตรถยนต์นั่งได้จำนวน 340,570 คัน ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024 แบ่งเป็น 189,079 คัน สำหรับ BEV และ 151,491 คัน สำหรับ PHEV

 

เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ BYD ได้เร่งสร้าง “กองทัพเรือขนส่งรถยนต์ไฟฟ้า” ขนาดใหญ่รวมทั้งหมด 8 ลำ โดยเรือลำล่าสุดเรือ BYD Zhengzhou ซึ่งสามารถบรรทุกรถได้ 7,000 คัน ได้เริ่มทดสอบเดินเรือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน BYD Xi’an เรือขนส่งลำที่ 6 ซึ่งมีความจุถึง 9,200 คัน ได้เสร็จสิ้นการเดินเรือครั้งแรกในปลายเดือนมิถุนายน โดยขนส่งรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 7,000 คันไปยังตลาดยุโรป อาทิ สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเบลเยียม

จากตัวเลขยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง BYD คาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมทั้งปีได้ถึง 5.5 ล้านคัน ภายในสิ้นปี 2025 และมีเป้าหมายสูงถึง 6.5 ล้านคัน ในปี 2026 หลังจากที่ในปี 2024 บริษัทขายรถยนต์ทั่วโลกได้รวมทั้งสิ้น 4.27 ล้านคัน และในปี 2023 อยู่ที่ 3 ล้านคัน

การเติบโตทั้งในประเทศและตลาดโลกของ BYD แสดงให้เห็นถึงบทบาทความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่อย่างแท้จริง

ที่มา: Carnewschina