SAIC Motor เตรียมเปิดตัว MG4 EV เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการสำหรับตลาดบ้านเกิดในเดือนกันยายนนี้ โดยมีภาพหลุดจากบล็อกเกอร์สายยานยนต์ชื่อดัง 燕赵女司机 ที่เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของคันจริงบนท้องถนน พร้อมภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่ทั้งหมดและการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่รองรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆจาก Oppo

MG4 เจเนอเรชั่นที่ 2 คาดว่าจะเปิดรับจองล่วงหน้าในวันที่ 5 สิงหาคม 2025 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กันยายน 2025 โดยมาพร้อมสีตัวถังใหม่ที่ SAIC ตั้งชื่อว่าสีม่วง Donglai Purple (东来紫) ซึ่งแปลว่า “มาจากทิศตะวันออก” สีนี้มีประกายเมทัลลิกภายใต้แสงแดดและให้เอฟเฟกต์มุกที่เปลี่ยนเฉดได้ตามมุมมอง

 

มิติตัวรถ

  • ยาว: 4,395 มม.
  • กว้าง: 1,842 มม.
  • สูง: 1,551 มม.
  • ระยะฐานล้อ: 2,750 มม.

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน (ยาว 4,287 มม., ฐานล้อ 2,705 มม.) ถือว่ามีความยาวเพิ่มขึ้น 109 มม. และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 45 มม. ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระมากขึ้น และมีขนาดเหนือกว่า BYD Dolphin และ Volkswagen ID.3 ซึ่งเป็นคู่แข่งกลุ่ม A0-class

 

ห้องโดยสารของ MG4 ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยสไตล์มินิมอล ติดตั้งหน้าจอกลางแบบลอยตัว หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่รูปทรงสี่เหลี่ยม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้าน คันเกียร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งที่คอลัมน์พวงมาลัย แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ปุ่มฟังก์ชั่นทำจากวัสดุโลหะ เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศ

ไฮไลท์คือการนำระบบ Oppo In-Car Ecosystem ติดตั้งภายในรถ ซึ่งจะช่วยให้สามารถสั่งการทำงานของระบบปรับอากาศและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ล่วงหน้าผ่านสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อแอปมือถือเข้ากับระบบของตัวรถ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน AI นอกจากนี้ยังสามารถใช้การควบคุมแบบ Gesture สำหรับระบบนำทางได้อีกด้วย

 

MG ระบุด้วยว่ารุ่นใหม่นี้จะรองรับระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ พร้อมฟังก์ชัน Navigate on Autopilot (NOA) สำหรับการขับขี่บนทางหลวง แม้จะยังไม่เปิดเผยสเปคทั้งหมดในตอนนี้

จากข้อมูลการจดทะเบียนของรัฐบาลจีน MG4 ใหม่จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 161 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อคู่หลังเช่นเดิมและยังคงใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้า MacPherson และด้านหลังแบบอิสระ Five-Link เหมือนรุ่นก่อนปัจจุบัน

แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก SAIC แต่สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า MG4 รุ่นใหม่นี้อาจติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Semi-solid state ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC

 

ถึงแม้ยังจะไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก SAIC แต่สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า MG4 รุ่นใหม่นี้อาจติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Semi-solid state ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC

 

สิ่งที่ทำให้ SAIC ต้องรับขยับการทำตลาดของ MG4 เนื่องจากรุ่นปัจจุบันจะมียอดขายในจีนน้อยกว่าเป้า โดยขายได้เพียง 10 คันในเดือนมิถุนายน 2025 แต่การอัปเกรดครั้งนี้ทั้งในด้านงานออกแบบ เทคโนโลยี และมิติตัวรถ อาจช่วยให้ MG มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นกับคู่แข่งสัญชาติเดียวกัน

ที่มา: Carnewschina