Lamborghini เตรียมสะเทือนวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถแข่งรุ่น Temerario GT3 รถแข่งที่พัฒนาต่อยอดโดยตรงจากรถสปอร์ตเวอร์ชั่นถนนอย่าง Temerario ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รถแข่งของแบรนด์ถูกออกแบบ พัฒนา และผลิตขึ้นทั้งหมดที่สำนักงานใหญ่ในเมือง Sant’Agata Bolognese ประเทศอิตาลี
Temerario GT3 ถูกออกแบบเพื่อรองรับการแข่งขันตั้งแต่ต้น ทำให้ Lamborghini สามารถผสมผสานงานวิศวกรรมสำหรับสนามแข่งเข้ากับสไตล์การออกแบบได้อย่างลึกซึ้งตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ
แชสซีส์อะลูมิเนียมแบบ spaceframe จากรุ่นถนนได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการแข่งขัน ด้วยการลดน้ำหนักและเพิ่มความสามารถในการถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนย่อยได้รวดเร็ว โดยเฉพาะชิ้นส่วนซับเฟรมหน้า-หลังที่สามารถถอดประกอบได้อย่างรวดเร็วและมีการติดตั้งโรลเคจตามมาตรฐาน FIA GT3
ตัวถังทั้งหมดผลิตจากวัสดุคอมโพสิตน้ำหนักเบา โดยทีมออกแบบของ Lamborghini Centro Stile และวิศวกรอากาศพลศาสตร์ของ Squadra Corse ที่ได้ร่วมกันพัฒนาให้สามารถถอด-ใส่ได้ง่ายในสนามแข่ง
ภายในพัฒนาโดยได้รับคำแนะนำจากนักแข่งของ Lamborghini ได้แก่ Marco Mapelli และ Andrea Caldarelli เพื่อให้การจัดวางอุปกรณ์ ปุ่มควบคุม และการใช้งานขณะแข่งขันมีประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งสำคัญคือหน้าจอแสดงผลพร้อมระบบ data logger ที่แม่นยำและพวงมาลัยรุ่นพิเศษที่ออกแบบเฉพาะสำหรับรถแข่ง
Temerario GT3 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นถนน โดยมีการปรับแต่งระบบอัดอากาศใหม่ให้สอดคล้องกับข้อบังคับของคลาส GT3 ซึ่งห้ามใช้ระบบ Hybrid ในระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์ใช้ข้อเหวี่ยงแบบ flat-plane 180 องศา ก้านสูบทำจากไทเทเนียมเพื่อความแข็งแรงและลดน้ำหนัก รวมถึงท่อไอเสียที่พัฒนาเฉพาะโดย Capristo ให้พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 550 แรงม้า (ปรับตาม BoP หรือ Balance of Performance) ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 จังหวะแบบ transverse
ระบบกันสะเทือนถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้โช้คอัพจาก KW ขณะที่ระบบพวงมาลัยไฮดรอลิกใหม่ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้ดีกับยางจากผู้ผลิตหลากหลายราย รถมาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้วจาก Ronal AG และระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นเพื่อเสถียรภาพในการเข้าโค้ง
Lamborghini เตรียมเปิดตัว Temerario GT3 ในสนามแข่งจริงครั้งแรกที่รายการ 12 Hours of Sebring ในเดือนมีนาคม 2026 โดยระหว่างนี้จะเข้าสู่ช่วงทดสอบขั้นสุดท้าย
ที่มา: Lamborghini
