Subaru อเมริกาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ชื่อรุ่นใหม่แกะกล่อง Subaru Uncharted แต่ไม่ใช่ใหม่หมดจดเนื่องจากเป็นการนำ Toyota C-HR EV มาแต่งหน้าทาปากและใส่ชุดแต่งเน้นลุยตามแบบฉบับแบรนด์ เพื่อขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์ EV ของ Subaru
ชื่อรุ่น “Uncharted” สื่อถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของ Subaru ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดรุ่นแรกของแบรนด์ มาพร้อมตัวเลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Premium FWD, Sport และ GT ครอบคลุมทั้งสายประหยัดและสายสมรรถนะ
ดีไซน์ภายนอกของ Subaru Uncharted ปี 2026 เน้นความโฉบเฉี่ยวและเรียบง่าย โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงเฉี่ยวพร้อมโลโก้ดาว 6 แฉกแบบเรืองแสง ซึ่งเป็นดีไซน์ร่วมกับ Solterra และ Trailseeker รุ่นปี 2026 มีล้ออัลลอยให้เลือกทั้งขนาด 18 และ 20 นิ้ว ขณะที่รุ่น GT จะมีตัวเลือกหลังคาทูโทน
ด้านท้ายออกแบบเรียบง่ายแบบมินิมอล มีเส้นสายคมชัด ไฟท้ายเรียวยาว ชื่อรุ่นสีดำตัดกับตัวถัง เพิ่มความพรีเมียม พร้อมแถบกันชนท้ายสีเงิน เสริมด้วยราวหลังคาแบบซ่อนตัวในรุ่นขับสี่ เพิ่มความสะดวกในการบรรทุกสัมภาระ
ภายในห้องโดยสาร Uncharted ติดตั้งหน้าจอสัมผัสกลางขนาดใหญ่ 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สายคู่บริเวณคอนโซลหน้าและช่อง USB-C สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เน้นความโปร่งโล่ง เสริมด้วยเส้นสายสีส้มสะดุดตา พร้อมด้วยวัสดุสัมผัสนุ่มและเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุ StarTex® กันน้ำในรุ่น Sport และ GT ขณะที่ผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่วางขาใกล้เคียงกับรุ่น Crosstrek และในรุ่น GT ยังมีเบาะหลังที่มาพร้อมระบบอุ่นเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Uncharted มาพร้อมการขับขี่ที่ทั้งสนุกและประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังมีรัศมีวงเลี้ยวแคบใกล้เคียงกับ Subaru Crosstrek ทำให้คล่องตัวในเมืองและการควบคุมอันแม่นยำจากช่วงล่างที่ปรับจูนโดย Subaru โดยมีขนาดสั้นกว่า Subaru Solterra ราว 7 นิ้ว
ด้านขุมพลังขับเคลื่อน จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค โดยในยุโรป Subatru Uncharted จะมีให้เลือก 3 รูปแบบขุมพลัง ดังนี้
- Single Motor – มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตเตอรี่ 57.7 kW/h วิ่งได้ไกลสุด 445 กิโลเมตร
- Single Motor Long Range – มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตเตอรี่ 73.1 kW/h วิ่งได้ไกลสุด 500 กิโลเมตร
- Dual Motor AWD – มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 338 แรงม้า ความจุแบตเตอรี่ 57.7 kW/h วิ่งได้ไกลสุด 467 กิโลเมตร เร่ง 0-100 km/h ใน 5.1 วินาที
วิศวกร Subaru ยังให้ความสำคัญกับการควบคุม การทรงตัว และการยึดเกาะบนพื้นผิวลื่น เช่น ทางกรวดหรือหิมะ ด้วยโครงสร้างเหล็กแรงสูงที่แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา ผสานกับจุดศูนย์ถ่วงต่ำจากแบตเตอรี่ใต้ท้องรถและชิ้นส่วนช่วงล่างที่จูนพิเศษ เพื่อให้ขับสนุกทั้งทางเรียบและทางวิบาก
มาพร้อมระบบชาร์จเร็วผ่านพอร์ต NACS รองรับความเร็วสูงสุด 150 kW ใช้ได้กับเครือข่าย Tesla Supercharger มากกว่า 15,000 จุดทั่วสหรัฐฯ และมีระบบปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่ล่วงหน้าช่วยให้ชาร์จได้เร็วแม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น รองรับเครื่องชาร์จภายในด้วยกระแสไฟ AC 11 kW สำหรับการชาร์จไฟบ้าน
ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่ EyeSight® ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน พร้อมระบบเบรกก่อนการชน ระบบแจ้งเตือนรถสวนทางด้านหน้า กล้องรอบคัน ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยในจราจรติดขัด ระบบช่วยเปลี่ยนเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับล่วงหน้า
ทุกรุ่นจะมาพร้อมแพ็กเกจ All-Weather ประกอบด้วย เบาะหน้าพร้อมระบบอุ่น กระจกข้างอุ่น ที่ฉีดน้ำล้างกระจกพร้อมฮีตเตอร์ ฝาท้ายไฟฟ้า ไฟตกแต่งภายใน และระบบ DriverFocus ตรวจจับความเหนื่อยล้าผู้ขับขี่
ขณะที่รุ่น Sport จะเพิ่มโหมดการขับขี่ X-MODE แบบ Dual-Mode เบาะนั่งหุ้มวัสดุกันน้ำ StarTex พวงมาลัยอุ่นและกล้องรอบคัน ส่วนรุ่น GT จะได้หลังคา Panoramic ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว เบาะหน้าพร้อมระบบระบายอากาศ เครื่องเสียง Harman Kardon กระจกมองหลัง Digital
ราคาจำหน่ายและรายละเอียดเพิ่มเติมจะประกาศใกล้ช่วงการเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 นี้
ที่มา: Subaru
