Lyft เตรียมยกระดับวงการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่นด้วยการเปิดตัวบริการรถรับส่งไฟฟ้าไร้คนขับแบบไม่มีพวงมาลัยหรือแป้นเหยียบ โดยจะเริ่มผลิตในปี 2025 ที่รัฐฟลอริดา และพร้อมให้บริการจริงในสหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2026
ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นระหว่าง Lyft กับบริษัท Benteler จากเยอรมนี และบริษัทในเครือที่ชื่อว่า Holon ซึ่งจะผลิตรถมินิบัสไฟฟ้าไร้คนขับที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 15 คน (นั่ง 9 คน ยืน 6 คน) โดยรถรุ่นนี้ชื่อว่า Holon Urban เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยเฉพาะ และใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 ของ Mobileye ที่สามารถขับเคลื่อนเองโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมในพื้นที่ที่กำหนดไว้ (geo-fenced)
Lyft ได้วางแผนระยะยาวในการบูรณาการบริการรถไร้คนขับเข้ากับแอปของตน โดยก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมมือกับ Mobileye และ May Mobility เพื่อขยายการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่อง การผลิตรถ Holon Urban จะเกิดขึ้นในโรงงานแห่งใหม่ในเมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาด้านภาษีนำเข้าและโลจิสติกส์จากการผลิตในต่างประเทศ ขณะที่การเจรจานโยบายต่างๆของทรัมป์กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
ผู้ใช้บริการจะสามารถเรียกรถรับส่งไร้คนขับนี้ผ่านแอป Lyft ได้เหมือนบริการทั่วไป โดย Benteler ระบุว่าเป้าหมายในอนาคตคือการผลิตและส่งมอบรถรับส่งไร้คนขับหลายพันคันไปทั่วโลก และ Lyft จะเป็นผู้เล่นหลักในตลาดสหรัฐอเมริกา
กลยุทธ์ของ Lyft คือการ “จับมือพันธมิตรเพื่อขยายสเกล” แทนที่จะลงทุนสร้างและถือครองเทคโนโลยีเอง แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Waymo ที่มีฟลีทรถของตนเอง หรือ BMW ที่ชะลอแผนพัฒนายานยนต์ไร้คนขับเนื่องจากต้นทุนและเวลาพัฒนาที่ยืดเยื้อกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้
ในขณะเดียวกัน Uber ยังคงมีแนวทางการดำเนินงานที่ไม่ชัดเจนในตลาดรถไร้คนขับ โดยเปลี่ยนทิศทางจากการพัฒนาเองใช้เองไปสู่ความร่วมมือภายนอก หลังจากล้มเหลวหลายครั้งในอดีต
กลยุทธ์แบบค่อยเป็นค่อยไปของ Lyft กลับได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักวิเคราะห์ โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ใช้งานแสดงความไม่พึงพอใจกับคุณภาพบริการและความน่าเชื่อถือของระบบเรียกรถในปัจจุบัน การมีระบบรถรับส่งไร้คนขับที่ทำงานได้แม่นยำตามโปรแกรมการควบคุม อาจกลายเป็นทางออกที่ Lyft ได้กลับมาเป็นผู้นำในตลาดอีกครั้ง
ที่มา: Autoblog
