Honda Prelude เตรียมกลับโลดแล่นบนถนนอีกครั้งในเดือนกันยายน 2025 นี้ หลังจากปล่อยให้แฟนๆร้องเพลงรอกันอยู่นานแรมปี Honda จึงได้ฤกษ์เปิดหน้าเว็บ Teaser อย่างเป็นทางการเพื่อแนะนำข้อมูลของ Honda Prelude โดยรุ่นใหม่นี้ถูกพัฒนาขึ้นในฐานะรถสปอร์ตเฉพาะกลุ่มที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งความสนุกในการขับขี่ตามแบบฉบับของ Honda และเป็นการนำความสุขในการขับขี่สู่ยุคใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า โดยยังคำนึงถึงสมรรถนะ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน
เมื่อย้อนไปยังจุดเริ่มต้น Prelude ถือกำเนิดครั้งแรกในปี 1978 และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาถึงเจเนอเรชันที่ 5 โดยถือเป็นหนึ่งในรถขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์วางหน้า ที่ล้ำหน้าที่สุดในยุคนั้น Hondaได้บรรจงใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยหลายรายการลงใน Prelude เช่น ซันรูฟไฟฟ้ารุ่นแรกในรถญี่ปุ่น ระบบเบรก ABS และระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อ (4WS) รุ่นแรกของโลก หลังจากห่างหายจากตลาดไปนานถึง 24 ปี Prelude จะกลับมาอีกครั้งในฐานะรถสปอร์ต Hybrid เจเนอเรชันที่ 6 ที่พร้อมสำหรับยุคใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยขุมไฟฟ้า
Prelude รุ่นใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพของเครื่องร่อนที่ล่องลอยอย่างอิสระและไร้ขอบเขตบนฟากฟ้า โดยถูกพัฒนาภายใต้แนวคิดหลักที่มีชื่อว่า “Unlimited Glide” เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกอันเร้าใจเสมือนได้ลอยอยู่กลางอากาศ และมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่แตกต่างจากชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องราวจากหัวเรือฝ่ายออกแบบ Tomoyuki Yamagam ที่เคยได้สัมผัสความสนุกสนานจากเครื่องร่อนวิทยุบังคับที่สร้างขึ้นโดยคุณปู่
เส้นสายรอบคันเฉกเช่นเครื่องร่อนที่มีสัดส่วนสมดุล สะท้อนความงามในเชิงฟังก์ชัน พร้อมการพลิ้วไหวและสง่างาม Prelude รุ่นใหม่นี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่พิเศษสุด มาพร้อมระบบขับเคลื่อน e:HEV Hybrid รุ่นล่าสุดของHonda ที่พัฒนาไปอีกขั้น ถือเป็นบทนำแห่งรถสปอร์ตขุมพลังไฟฟ้ารุ่นถัดไปของ Honda ในอนาคต
Prelude รุ่นใหม่โดดเด่นด้วยสัดส่วนตัวรถที่กว้าง แบนและเตี้ย ขณะที่ด้านหน้ามาพร้อมกันชนและกระจังหน้าทรงแหลมและเฉียบคม ไฟหน้าได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของเครื่องร่อนอย่างชัดเจน เส้นสายบริเวณประตูเรียบเนียนพร้อมมือเปิดประตูแบบฝังเรียบไปกับตัวถัง ส่วนกระจังหน้าใช้วัสดุโครเมียมดำ เสริมความหรูหราพรีเมียมตามแบบฉบับของรถสปอร์ตเฉพาะทางจาก Honda
ภายนอก มีให้เลือก 4 สี ดังนี้
- สีขาว Moonlit White Pearl
- สีเทา Meteoroid Grey Metallic
- สีดำ Crystal Black
- สีแดง Flame Red
ภายในห้องโดยสารยังคงถ่ายทอดแนวคิด “Unlimited Glide” ผ่านบรรยากาศที่โปร่งสบายและหรูหราทันสมัย พร้อมโทนสีขาวสดใสตัดกับน้ำเงินเข้ม แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยพื้นผิวสีขาวเฉดอ่อนที่ชวนสัมผัส เพิ่มความพิเศษด้วยโลโก้ Prelude ปักอยู่ฝั่งผู้โดยสาร
เบาะนั่งด้านหน้าถูกออกแบบอย่างแตกต่างเพื่อรองรับสรีระได้เป็นอย่างดี เบาะคนขับให้ความกระชับแม้ในจังหวะการขับขี่แบบสปอร์ต ส่วนเบาะผู้โดยสารให้ความสบายพร้อมความรู้สึกโอบกระชับ เสริมด้วยรายละเอียดพิเศษอื่นๆ เช่น มุมมองที่เปิดกว้างในแนวนอน พวงมาลัยทรง D-shape และมาตรวัดแบบ Full Digital เต็มรูปแบบเฉพาะ Prelude
Prelude ใหม่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์เช่นเดียวกัน ด้านท้ายติดตั้งฝาท้ายแบบ Liftback ที่เปิดได้กว้าง สะดวกต่อการขนของ เบาะหลังสามารถพับแยกได้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น พื้นที่เก็บของใต้พื้นและตะขออเนกประสงค์ช่วยให้พื้นที่ใช้งานในส่วนท้ายมีความสะดวกสูงสุด เหมาะกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
แม้ Honda จะยังไม่เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมดจนกว่าจะถึงการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ แต่ภายหลังจากที่ได้ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า Prelude รุ่นใหม่จะไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกแต่อย่างใด โดยระบบขับเคลื่อนจะมีเพียง e:HEV เท่านั้น แต่จะมาพร้อมโหมดขับขี่พิเศษ S+ Shift ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยแป้นแพดเดิลชิฟต์หลังพวงมาลัย เพื่อจำลองการเปลี่ยนเกียร์แบบสปอร์ต โดยยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือนเช่นเคย
ตัวเลขพละกำลังของ Prelude รุ่นใหม่ยังคงเป็นสิ่งที่ Honda เก็บไว้เฉลยในวินาทีสุดท้าย แต่หากอ้างอิงจาก Civic Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไร้ระบบอัดอากาศ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยยังไม่มีการแจ้งตัวเลขแรงม้าและแรงบิดแน่ชัด จึงอาจลุ้นได้ว่าแรงกว่า 185-200 แรงม้า และ 315 นิวตัน-เมตร
อย่างไรก็ตาม Honda ได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่า Prelude เจเนอเรชั่นที่ 6 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถสนามหรือเน้นความแรงสุดขั้ว โดยระบุไว้ชัดเจนว่า “มันจะไม่ใช่รถที่สปอร์ตหรือปราดเปรียวที่สุดจนสามารถถูกเหวี่ยงเข้าไปในสนามแข่งได้” Prelude ใหม่จึงถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถสปอร์ตสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่มอบประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจ แต่ไม่ถึงขั้นสุดโต่งแบบรถแข่ง และยังคงความสะดวกสบายในการใช้งานจริงในทุกวัน
นอกจากนี้ Prelude ยังถูกวางให้เป็น รถระดับโลกอย่างแท้จริง (Global Model) โดยจะมีดีไซน์และสเปกเหมือนกันในทุกประเทศที่วางจำหน่าย ซึ่งแตกต่างจากกลยุทธ์เดิมที่รถสปอร์ตหลายรุ่นจะมีเวอร์ชันเฉพาะตลาดบางแห่ง เช่น สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น
ถึงแม้รุ่นมาตรฐานจะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่รายงานจากญี่ปุ่นมีการคาดการณ์ว่า Prelude อาจมีรุ่นแรงอย่าง Type S หรือแม้แต่ Type R ตามมาในอนาคต ซึ่งหากเป็นจริงก็จะถือเป็นการต่อยอดความสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้เห็นรุ่น Type S หรือ Type R ในเร็ววัน เพราะ Prelude รุ่นพื้นฐานยังไม่ได้วางตลาดอย่างเป็นทางการ การพัฒนาและขยายไลน์อัพรุ่นแรงจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงแรกของอายุผลิตภัณฑ์
ที่มา: Honda
