แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่ยังไม่บุกตลาดไทยอย่าง Polestar ซึ่งเกิดจากสายสัมพันธ์ระหว่างสวีเดนและจีน กำลังเตรียมถอนตัวออกจากตลาดจีนอย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 2025 ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นจีน NBD Auto โดยสาเหตุหลักมาจากยอดขายที่ตกต่ำและการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในภูมิภาค

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 Polestar สามารถจำหน่ายรถยนต์ในจีนได้เพียง 69 คัน โดยในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ยอดขายตกลงเหลือเพียงศูนย์คัน ซึ่งตรงข้ามกับยิดขายระดับโลกของแบรนด์ที่มียอดส่งมอบรถรวม 30,300 คัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

สัญญาณการถอนตัวเริ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดย Polestar Times Technology (China) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Star Meizu ได้ยุติการดำเนินงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งบริหาร โดย Wu Huijing ได้ลาออกจากตำแหน่ง CEO ประจำประเทศจีน และถูกแทนที่ด้วย Hu Shiwen ซึ่งกลายเป็นตัวแทนทางกฎหมายของบริษัท Polestar Automobile Sales Co., Ltd.

ปัจจุบัน Polestar มีเพียงโชว์รูมขายตรงเพียงแห่งเดียวในจีน ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ รวมไปถึงได้ปิดระบบสั่งซื้อออนไลน์และการขอทดลองขับต้องทำผ่านการนัดหมายทางโทรศัพท์ สะท้อนถึงการหยุดดำเนินงานในตลาดจีนเกือบทั้งหมด

 

ปัญหานี้เชื่อมโยงกับสถานะทางการเงินของ Polestar ที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยในช่วงสิ้นปี 2024 บริษัทมีสินทรัพย์สุทธิติดลบ 3.329 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีหนี้สินรวม 7.383 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด 4.054 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีผลขาดทุนสะสมตั้งแต่ปี 2020 สูงกว่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ โดยในปี 2024 เพียงปีเดียวมีผลขาดทุนสุทธิถึง 2 พันล้านดอลลาร์

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา PSD Investment Limited ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Geely Holding Group และอยู่ภายใต้การควบคุมของ Li Shufu ได้อัดฉีดเงินสดฉุกเฉิน 200 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Polestar ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นรวมของ Li Shufu ใน Polestar เพิ่มขึ้นเป็น 66% ขณะที่สัดส่วนของ Volvo ลดลงจาก 18% เหลือ 16%

 

ถึงแม้จะได้รับเงินสนับสนุนดังกล่าว นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมที่ให้สัมภาษณ์กับ NBD Auto ก็ยังตั้งข้อสงสัยว่าเงินจำนวนนี้จะเพียงพอให้ Polestar พลิกฟื้นสถานะการเงินได้หรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด และ Polestar ตั้งเป้าหมายจะทำกำไรให้ได้ภายในปี 2025

นับตั้งแต่ที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ เมื่อปี 2022 ราคาหุ้นของ Polestar ร่วงลงกว่า 90% และในปี 2024 ก็ได้รับแจ้งเตือนจาก NASDAQ หลังจากที่ราคาหุ้นตกลงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ต่อหุ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิกถอนหุ้นออกจากตลาด หากไม่สามารถกลับมารักษาระดับได้ในระยะเวลาที่กำหนด

ที่มา: Carnewschina