เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2025 Cadillac เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ Elevated Velocity Concept ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในคอนเซปต์คาร์ที่ล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์หรูสัญชาติอเมริกัน ด้วยดีไซน์ที่แปลกใหม่กว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยเรืองแสงได้ขนาดใหญ่จุใจถึง 24 นิ้ว ประตูแบบปีกนก (Gullwing Doors) ไปจนถึงหน้าจอแสดงผลที่ฝังไว้บนพวงมาลัย ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวคิดการออกแบบในอนาคตที่ Cadillac เชื่อว่าสามารถเกิดขึ้นได้จริงในอีกไม่นานนี้
Elevated Velocity ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ SUV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า รูปทรงสูงที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ผสมผสานกลิ่นอายของรถสปอร์ตตระกูล V-Series และความแข็งแกร่งสไตล์ออฟโรด โดย Cadillac ยืนยันว่านี่คือการลองออกนอกกรอบด้านดีไซน์ที่สามารถส่งอิทธิพลไปสู่รถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคตอันใกล้
ด้านท้ายติดตั้งไฟ Infinity Taillight คล้ายกับรถต้นแบบ Opulent Velocity ที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน พร้อมครีบไฟท้ายกลับด้าน (Inverted Fins) ที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่ล้อเรืองแสงขนาด 24 นิ้วที่อาจเป็นข้อถกเถียงว่าจะสามารถผลิตได้จริงหรือไม่ Brandon Vivian หัวหน้าวิศวกรใหญ่ของ GM ยืนยันว่า “นี่ไม่ใช่คำถามว่าล้ออัลลอยเรืองแสงจะผลิตได้จริงหรือไม่ แต่เป็นคำถามว่าผลิตได้เมื่อไหร่ต่างหาก”
ภายในห้องโดยสาร Cadillac เลือกใช้โทนสีแดงเข้มสุดหรู ผสมผสานหนังแท้และผ้าพิเศษ (Bouclé Fabric) ที่สร้างบรรยากาศอบอุ่นและพรีเมียม จุดเด่นคือ ไม่มีหน้าจอแบบดั้งเดิม แต่หันไปใช้หน้าจอแนวใหม่ เช่น หน้าจอในพวงมาลัย ซึ่งเป็นพัฒนาการต่อเนื่องจากรถต้นแบบ Opulent Velocity โดยวิศวกรกำลังหาวิธีผสานเข้ากับระบบถุงลมนิรภัยเพื่อใช้งานจริงในอนาคต
นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อการใช้ชีวิตและความสบายของผู้โดยสาร เช่น ระบบฟอกอากาศและปรับสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร เทคโนโลยีชดเชยความแห้งของอากาศ ความต่างอุณหภูมิ และการเปลี่ยนแปลงระดับความสูง ระบบอินฟราเรดเพื่อฟื้นฟูความสดชื่น ฟังก์ชันป้องกันฝุ่นและทำความสะอาดตัวรถด้วยคลื่นสั่นสะเทือน ช่องเก็บของแบบล็อกพิเศษ รวมถึงชุดกีฬาขี่ม้า Polo แบบแฮนด์เมด
Elevated Velocity ถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติและการควบคุมสมรรถนะสูงทำงานร่วมกันได้ โดยแบ่งโหมดการขับขี่หลักออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
- Elevate Mode: ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ พวงมาลัยและแป้นเหยียบเก็บเข้าที่
- Velocity Mode: ผู้ขับขี่มีกทาควบคุมเต็มที่สำหรับการขับขี่ด้วยตนเอง
- E-Velocity Mode: พัฒนาต่อยอดจากโหมด V-Series เน้นสมรรถนะสูงบนทางเรียบ
- Terra Mode: โหมดสำหรับการขับขี่ออฟโรดสมรรถนะสูง
ถึงแม้ Cadillac ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดด้านขุมพลัง แต่ยืนยันว่าเป็นรถ EV ที่มาพร้อมช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพเส้นทาง
Cadillac ย้ำว่า Elevated Velocity ยังคงเป็นเพียงรถต้นแบบทดลองหาทิศทางการออกแบบและเทคโนโลยี และยังไม่ใช่ต้นแบบที่พร้อมผลิตขึ้นจริงทั้งคัน แต่สิ่งที่ผู้บริโภคได้เห็นวันนี้มีโอกาสถูกนำไปปรับใช้กับรถยนต์รุ่นจำหน่ายจริงในอนาคต
Cadillac เตรียมนำ Elevated Velocity Concept จัดแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกที่งาน The Quail หนือ Monterey Car Week วันที่ 15 สิงหาคม 2025 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่บรรดาแบรนด์หรูระดับโลกมักใช้เปิดตัวผลงานสุดพิเศษ
ที่มา: Motor1
