เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 Ford Bronco ได้เผยโฉม Bronco และ Bronco Sport Silver Lake Dunes เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของตำนานออฟโรด ที่ออกแบบขึ้นเพื่อสะท้อนจิตวิญญาณ “Build Wild” ทั้งความแกร่ง ความสนุก และความเป็นยานยนต์ที่เจ้าของสามารถปรับแต่งให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

โดยโปรเจกต์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Silver Lake Sand Dunes บริเวณริมทะเลสาบมิชิแกน ซึ่งเป็นสถานที่ที่แฟนๆ Bronco ได้ใช้เป็นสนามประลองสมรรถนะของรถมาอย่างยาวนานและยังเป็นงานรวมพลที่ทีมพัฒนารถรุ่นนี้เคยเข้าร่วมในปี 2017 ก่อนที่ Bronco จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในยุคปัจจุบัน

Silver Lake Dunes ได้ทำให้ Bronco แสดงศักยภาพการเป็นตัวลุยอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การถอดประตูและหลังคาเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่แบบเปิดโล่งเหมือนรุ่นดั้งเดิมปี 1966 ไปจนถึงโครงสร้างที่ทำให้เจ้าของรถสามารถดัดแปลงรถได้เองอย่างอิสระ

 

ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กกว่า แต่ Bronco Sport ปี 2025 มาพร้อมกับแพ็กเกจ Sasquatch ที่เน้นสมรรถนะในทะเลทราย พร้อมโหมดการขับขี่ Rally และโครงสร้างตัวถังแบบ Modular ที่เอื้อต่อการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ง่าย 

ทีมออกแบบสีและวัสดุของ Ford ได้สร้างสรรค์ลวดลายกราฟิกพิเศษที่เล่าเรื่องราวของ เนินทราย ทะเลสาบและท้องฟ้า อันเป็นเอกลักษณ์ของ Silver Lake โดยใช้สีเทา Azure Gray ตัดกับกราฟิกที่สื่อถึงความเคลื่อนไหวราวกับมองทิวทัศน์

 

อุปกรณ์ตกแต่งที่ติดตั้งในโครงการนี้ได้นำมาจากแผนก Ford Performance Parts และ Ford Accessories ที่ลูกค้าสามารถซื้อหาได้จริง ได้แก่

  • Yakima Paddle Board Carriers และ Cross Bars
  • ไฟสปอร์ตบาร์จาก Rigid
  • กันชนเสริม (Bull Bar)
  • ล้อ Bronco Heritage พร้อมยาง BFGoodrich T/A KO3 สำหรับ Bronco
  • ล้อ Mustang Mach-E Rally พร้อมยาง BFGoodrich XL TRTERTA สำหรับ Bronco Sport
  • ชิ้นส่วนตกแต่งพ่นสีพิเศษ เช่น บังโคลน ตะขอลาก สัญลักษณ์ และโลโก้ Bucking Bronco

 

Ford ย้ำว่าโปรเจกต์นี้ไม่ใช่เพียงการโชว์รถต้นแบบ แต่คือแนวคิดหลักของ Bronco ที่เป็นการแนะแนวทางให้เจ้าของได้ปรับแต่งยานยนต์ตามสไตล์และการใช้งานของตัวเอง คล้ายกับโปรเจกต์ก่อนหน้าอย่าง Bronco Off-Roadeo: Arches Edition และ Cliffhanger Project Vehicle

 

“Bronco และ Bronco Sport Silver Lake Dunes Project Vehicles สะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการสร้างรถที่โมดูลาร์ ยืดหยุ่น และดัดแปลงได้ตามใจ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงโลกกว้างตามแบบที่ตัวเองรัก” ทีม Ford กล่าว

ที่มา: Ford