ความนิยมของแบรนด์ Dacia พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ Renault เข้ามาเทกโอเวอร์แบรนด์โรมาเนียรายนี้ในปี 1999 ปัจจุบัน Dacia กลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดยุโรป ในฐานะแบรนด์รถยนต์ราคาประหยัดสบายกระเป๋า โดย Hatchback ยอดนิยมรุ่น Sandero ขึ้นแท่นเป็นรถขายดีอันดับหนึ่งตลอด 7 เดือนแรกของปี 2025 ขณะที่ Duster ก็เป็น SUV ที่ติดอันดับ 8 ของยอดขายรวมโดยเป็นข้อมูลตามข้อมูลจาก Dataforce ที่เผยแพร่โดย Automotive News Europe
ที่ผ่านมา Duster มีให้เลือกเฉพาะตัวถัง SUV เท่านั้น แต่ล่าสุดได้ขยายไลน์อัปไปยังตัวถังกระบะ (Pick-Up) โดย Dacia จับมือกับบริษัทผู้ผลิตตัวถังดัดแปลงในท้องถิ่น Romturingia มารับหน้าที่แปลงโฉมให้ เนื่องจากโครงสร้างหลักและสัดส่วนภายนอกยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงยังคงมีประตูหลังอยู่ ทำให้ตัวรถกลายเป็นกระบะแบบ ดับเบิลแค็บ ที่มีเตียงบรรทุกขนาดเล็กน่ารักแต่ก็ดูแปลกตาไปเล็กน้อย พื้นที่กระบะรองรับน้ำหนักได้ 430 กิโลกรัม มาพร้อมรางเหล็ก 2 เส้นและห่วงยึดสัมภาระ 4 จุด
อย่างไรก็ตาม ขนาดกระบะค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับรถกระบะจริง โดยมีความยาวเพียง 1,050 มม. และกว้าง 1,000 มม. จนทำให้บางมุมมองแทบมองไม่เห็นพื้นที่บรรทุกเลยทีเดียว เหตุผลสำคัญที่ Dacia เลือกทางนี้เพราะต้องการควบคุมต้นทุน หากจะตัดประตูหลังและโครงสร้างหลังคาออกไปเพื่อทำกระบะจริง ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงเกินไป และวางจำหน่ายด้วยราคา 31,000 ยูโร (ประมาณ 1,166,003 บาท)
ถึงแม้จะมีราคาจะสูงกว่า Duster SUV ปกติ แต่กระบะรุ่นนี้ยังถือว่าถูกกว่ารถกระบะพิกัด 1 ตัน (เนื่องจากโครงสร้างภาษีรถยนต์ของยุโรป) เช่น Toyota Hilux ที่แพงกว่าราว 10,000 ยูโร (ประมาณ 376,410 บาท) ขณะที่ Ford Ranger และ Volkswagen Amarok ก็ขยับสูงขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ยังมี KGM Musso (ชื่อเดิม SsangYong) ที่เป็นกระบะดับเบิลแค็บแท้ๆ พร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า ในราคาสูงกว่า Duster Pick-Up เพียง 2,000 ยูโรเท่านั้น
นอกจากเวอร์ชันกระบะแล้ว ยังมีเวอร์ชั่นดัดแปลงเป็นตู้ทึบขนาดย่อมหรือ Cargo Van ที่อาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า ซึ่ง Dacia สหราชอาณาจักรได้เปิดตัว Duster Cargo โดยการถอดเบาะหลังออกเพื่อสร้างพื้นที่บรรทุกแทน ตามสไตล์รถ Hatchback เพื่อการพาณิชย์ของยุโรป โดยมีความจุสัมภาระสูงสุด 1,149 ลิตร พร้อมพื้นที่บรรทุกเรียบทำงานไม้และหุ้มด้วยวัสดุทนทาน กั้นห้องโดยสารกับพื้นที่บรรทุกด้วยตะแกรงเหล็กเสริมความปลอดภัย
Duster Cargo ยังติดตั้งอุปกรณ์ เช่น จุดยึดสัมภาระ 4 จุด พื้นยางปูห้องสัมภาระ ฝาปิดสัมภาระตลอดแนวยาว และกระจกหลังที่ถูกปิดทึบเพื่อป้องกันการมองเห็นด้านใน โดยในสหราชอาณาจักร Duster Cargo มีราคาเริ่มต้นที่ 27,594 ปอนด์ (ประมาณ 1,196,770 บาท) ซึ่งถูกกว่ารถกระบะและเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง
ท้ายที่สุด Duster Pick-Up ดูเหมือนจะถูกพัฒนามาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่อยากได้รถกระบะป้ายแดงในราคาที่ประหยัดที่สุด แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ตัวเลือกอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบะแท้มือสอง หรือแม้แต่ Duster Cargo อาจเป็นคำตอบที่คุ้มค่ากว่า และหากในอนาคต Dacia นำเอา SUV รุ่นใหญ่กว่าอย่าง Bigster มาพัฒนาต่อยอดเป็นกระบะเต็มรูปแบบ ก็อาจสร้างทางเลือกใหม่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในตลาด
ที่มา: Carscoops
