GAC Aion เปิดตัว Aion RT รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2025 โดยครั้งนี้ยังคงใช้เส้นสายงานออกแบบและขุมพลังเดิม แต่ได้เพิ่มความคุ้มค่าด้วยการปรับออปชันและราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น โดยรุ่นใหม่นี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย
ดีไซน์ภายนอกของ Aion RT ยังคงสะท้อนคอนเซปต์ “Velociraptor” ด้วยเส้นสายโค้งมนที่ทำให้ตัวถังมีมัดกล้ามและรูปทรงสปอร์ต ด้านหน้ามีเส้นสายแบบ Minimal เพื่อลดแรงเสียดทานอากาศ เสริมด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่และเซ็นเซอร์ LiDAR ที่ติดตั้งอย่างแนบเนียน ด้านข้างตัวรถออกแบบทรงคูเป้พร้อมท้ายลาดแบบ Fastback พร้อมมือจับประตูซ่อนแบบเรียบเนียนเข้ากับตัวถัง โดยตัวรถมีขนาดยาว 4,865 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,520 มม. และระยะฐานล้อ 2,775 มม. พร้อมสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียง 0.208Cd ซึ่งถือว่าดีที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่ม พร้อมตัวเลือกสีสันภายนอกถึง 7 สี
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้ทันสมัยและใช้งานง่าย แผงหน้าปัดเป็นหน้าจอ Full Digital แบบลอยตัวขนาด 8.88 นิ้ว จับคู่กับจอกลางขนาด 14.6 นิ้วที่ทำงานด้วยระบบ Infotainment ADiGO 5.0 รุ่นล่าสุด ซึ่งมี Interface คล้ายกับแท็บเล็ตพร้อมรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย คอนโซลกลางตกแต่งแบบเลเยอร์ซ่อนช่องแอร์และแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เสริมระบบความบันเทิงด้วยระบบเสียง 11 ลำโพงแบบ 5.1 แชนเนล พร้อมซับวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว

ในด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Aion RT จัดเต็มด้วย LiDAR เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลจาก Nvidia Orin-X จุดเด่นคือระบบ “no-map NDA” ซึ่งใช้โมเดล AI รุ่นที่ 4 แบบ end-to-end ช่วยให้รถสามารถใช้งานระบบช่วยเหลือการขับขี่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแผนที่ความละเอียดสูง รองรับการใช้งานสัดส่วนกว่า 99% ของสภาพถนนจริง รวมถึงถนนที่ไม่มีเส้นจราจรแบ่งชัดเจน
ด้านขุมพลัง Aion RT มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ LFP จาก CATL มีให้เลือกสองความจุ ได้แก่ 55.1 kWh และ 68.1 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) และ 165 กิโลวัตต์ 224 แรงม้า(PS) ตามลำดับ โดยในรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 55.1 kWh วิ่งได้สูงสุด 520 กม. ต่อการชาร์จเต็มใน 1 รอบ ขณะที่รุ่นแบตเตอรี่ขนาด 68.1 kWh ทำได้ถึงสูงสุด 650 กม. อัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 11.7–11.9 kWh ต่อ 100 กม. ซึ่งถือว่าประหยัดพลังงานอย่างมากเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
เพื่อความสะดวกในการใช้งานจริง รถยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 400V Silicon Carbide 3C Fast Charging ที่สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที และเพิ่มระยะทางวิ่งได้สูงสุด 160–200 กม. ภายในเวลาเพียง 10 นาที
ที่มา: Carnewschina
