รัฐบาลปักกิ่งยืนยันเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 ว่าจะออกมาตรการควบคุมการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV) ภายหลังจากที่แบรนด์รถจีนน้องใหม่พยายามจะบุกตลาดโลก นอกเหนือจากการสร้างสงครามราคาภายในจีนเองแล้ว ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากตลาดต่างประเทศเกี่ยวกับการทะลักเข้ามาของรถจีนราคาถูกจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังต้องการยกระดับมาตรฐานบริการหลังการขายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทั่วโลก

 

กฎระเบียบใหม่กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า “ผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตจะต้องยื่นขอใบอนุญาตส่งออก เช่นเดียวกับระบบที่มีอยู่แล้วสำหรับรถยนต์สันดาปภายในและ HEV ที่ผลิตในจีนและจำหน่ายไปต่างประเทศ”สาเหตุสำคัญมาจากความไม่พอใจของรัฐบาลต่อการส่งออกแบบ “grey market” ที่ขาดโครงข่ายบริการหลังการขาย ทำให้ผู้บริโภคในต่างประเทศไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม

ตามรายงานของสำนักข่าว CBT News ปัญหาการบริการที่ไม่ทั่วถึงและการขาดโครงสร้างสนับสนุนสามารถทำให้ลูกค้าต่างประเทศรู้สึกถูกทอดทิ้งและบั่นทอนภาพลักษณ์ของแบรนด์ นอกจากนี้ยังทำให้การแข่งขันด้านราคาทวีความรุนแรงในหลายตลาดทั่วโลกและสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตท้องถิ่น

 

Wu Songquan ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยนโยบายจากศูนย์วิจัยยานยนต์แห่งประเทศจีน (China Automotive Technology Research Center – CATARC) กล่าวว่า “แบรนด์รถยนต์จีนต้องเดินตามรอยค่ายดั้งเดิม ด้วยการกำหนดมาตรฐานกระบวนการส่งออกและยกระดับคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระยะยาวในตลาดโลก” มาตรการนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญ ภายหลังจากที่จีนขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกแซงหน้าญี่ปุ่นได้สำเร็จ และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

Cui Dongshu เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association – CPCA) คาดการณ์ว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า จีนอาจส่งออกรถยนต์ได้มากถึง 10 ล้านคันต่อปี ขณะที่ตลาดภายในประเทศเองก็ยังมีศักยภาพสูง อาจมีปริมาณทั้งหมดถึง 30 ล้านคันต่อปี จากความต้องการในภูมิภาคที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ เช่น พื้นที่ภาคตะวันตกและชนบท ซึ่งมีแนวโน้มว่าการครอบครองรถยนต์จะเพิ่มขึ้นจนแซงหน้ามหานครอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ โดยปัจจุบันจีนมีสัดส่วนรถยนต์เพียง 1 คันต่อประชากร 1,000 คน เมื่อเทียบกับยุโรปที่มี 641 คันต่อ 1,000 คน และสหรัฐฯ ที่เคยสูงถึง 860 คันต่อ 1,000 คน

ที่มา: Carscoops