เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2025 สองค่ายยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ Isuzu Motors Limited และ Toyota Motor Corporation ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการพัฒนารถโดยสารประจำทางที่ใช้ขุมพลังเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell Route Bus) รุ่นใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ภายในปีงบประมาณ 2026 (เมษายน 2026 – มีนาคม 2027) ณ โรงงาน Utsuinomiya จังหวัด Tochigi ของบริษัท J-Bus, Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Isuzu และ Hino Motors

รถโดยสารรุ่นใหม่นี้จะถูกพัฒนาบนงานวิศวกรรมพื้นฐานรถโดยสารพื้นเรียบพลังงานไฟฟ้า (Flat-Floor Battery Electric Route Bus) ที่ Isuzu และ Hino ได้วางแผน ออกแบบ และเปิดตัวในปี 2024 โดยมี J-Bus รับหน้าที่ในการผลิต โดยจะถูกนำมาติดตั้งระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่พัฒนาโดย Toyota ซึ่งถือเป็นการผสมผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัทในด้านเทคโนโลยีรถเพื่อสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการสร้างยานยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ โดยการใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV) แทนระบบไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญคือการออกแบบโดยใช้ชิ้นส่วนร่วมกันระหว่าง BEV และ FCEV เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทำให้รถโดยสารพลังงานสะอาดมีราคาที่ถูกลงในเชิงพาณิชย์และตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Isuzu มองว่ารถโดยสารเซลล์เชื้อเพลิงจะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเสริมตลาดรถโดยสารไฟฟ้าขุมพลังแบตเตอรี่ BEV ซึ่งกำลังขยายตัวทั่วโลกในขณะนี้ ขณะที่ Toyota ยังคงยึดมั่นว่า “ไฮโดรเจน” คือพลังงานแห่งอนาคต และได้ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานไฮโดรเจนตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ การขนส่ง ไปจนถึงการใช้งาน โดยมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรในหลายอุตสาหกรรมเพื่อขยายระบบนิเวศด้านไฮโดรเจนอย่างเป็นรูปธรรม

Toyota Crown H2

ทั้งสองบริษัทมีแผนที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคธุรกิจในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นได้กำหนดไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ให้เป็น “ภูมิภาคนำร่องสำหรับการส่งเสริมการใช้ยานยนต์เซลล์เชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์” ซึ่งจะช่วยให้การนำรถโดยสาร FCEV รุ่นใหม่นี้มาใช้งานจริงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแพร่หลาย

ในภาพรวม การจับมือครั้งนี้ที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านเทคโนโลยีของ Isuzu และ Toyota เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นที่มุ่งมั่นต่อการพัฒนายานยนต์พลังงานสะอาด รองรับทั้งความต้องการในการเดินทางสาธารณะและเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างยั่งยืน ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของการเดินหน้าไปสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ในอนาคต

ที่มา: Nikkei , Toyota