ใครจะเชื่อว่ายอดจองของรถสปอร์ตที่กลับมาเกิดใหม่ แต่กลับใช้ขุมพลัง CIvic e:HEV อย่าง Prelude จะได้รับจากยอดจองอย่างเกินความคาดหมาย สวนทางกับเสียงวิจารณ์ที่แซวกันไปว่าควรจะเรียกว่า Civic Coupe แทนดีกว่า เพราะเพียงหนึ่งเดือนหลังจากวางขายในญี่ปุ่น Prelude รุ่นใหม่โกยยอดสั่งซื้อสูงกว่าที่ Honda ตั้งเป้าไว้ถึง 8 เท่า
จากยอดขายเดิมที่ Honda คาดว่าจะขายได้เพียงเดือนละ 300 คัน ระหว่างวันที่ 5 กันยายน ถึง 6 ตุลาคม ยอดสั่งซื้อกลับพุ่งทะลุ 2,400 คัน จนบางโชว์รูมต้องหยุดรับจองชั่วคราวเนื่องจากกำลังการผลิตไม่ทันความต้องการ อย่างไรก็ตาม Honda เตรียมปรับแผนเพิ่มกำลังผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถให้กับลูกค้ากลุ่มแรกโดยเร็วที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจก็คือกลุ่มลูกค้าหลักของ Prelude รุ่นใหม่นี้ไม่ได้เป็นวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่อย่างที่หลายคนคาด แต่กลับเป็นกลุ่มวัยกลางคนถึงสูงอายุในช่วงอายุ 50–60 ปี ที่มองหารถคันใหม่ไว้ใช้งานหลักหรือคันที่สองในครอบครัว โดยสีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ สีขาวพิเศษเฉพาะรุ่น 63% รองลงมาคือ สีเทา 16% สีดำ 11% และ สีแดง 10%
Honda Prelude มีราคาเริ่มต้นในญี่ปุ่นที่ 6,179,800 เยน (ประมาณ 1,313,638 บาท) ส่วนรุ่นพิเศษแบบทูโทน Limited Edition ที่จำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ในราคา 6,480,100 เยน (ประมาณ 1,377,473 บาท) ขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็วเนื่องจากความต้องการล้นตลาด
สำหรับตลาดสหรัฐฯ Prelude ใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยราคายังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ราว 40,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่า Civic Hatchback Hybrid ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเดียวกันซึ่งมีราคาประมาณ 32,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,040,000 บาท)
ถึงแม้ Prelude ใหม่จะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นรถสปอร์ตสายสนามเต็มตัวแบบ Toyota GR86 Subaru BRZ หรือ Mazda MX-5 / Miata RF แต่กลุ่มเป้าหมายของคือคนที่ต้องการรถสปอร์ตขนาดกลางที่ให้ความสมดุลระหว่างความแรงและความสบายในการใช้งานจริง สไตล์ GT มากกว่าการเป็นรถแข่งในสนาม ผลตอบรับในญี่ปุ่นแสดงให้เห็นชัดว่า Honda ได้อ่านตลาดถูกทาง ถึงแม้ Prelude รุ่นใหม่อาจไม่ใช่รถคูเป้สำหรับวัยรุ่นแบบในอดีต แต่ได้กลายเป็นการคืนชีพที่โตไปพร้อมกับคนรุ่นก่อนที่ตอบโจทย์ยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว
ที่มา: Motor1
