เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 Mercedes-Benz เปิดตัว Vision Iconic รถ GT ขุมพลังไฟฟ้าล้วนต้นแบบที่สะท้อนถึงทิศทางการออกแบบเชิงสัญลักษณ์ของแบรนด์ในอนาคต โดยถ่ายทอดแนวคิด “อิสระทางความคิดและจินตนาการ” เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างอดีตและอนาคตอย่างสง่างาม ใครเห็นเป็นต้องร้องอ๋อว่านี่แหละรถตราดาวข้ามกาลเวลากลับมาเกิดใหม่

 

ภายนอกโดดเด่นด้วยงานออกแบบระดับมาสเตอร์พีซและการตีความใหม่ของ “กระจังหน้าทรงอมตะ” ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบอันทรงคุณค่าที่อยู่คู่กับ Mercedes-Benz มานานกว่า 100 ปี โดดเด่นด้วยกรอบโครเมียมขนาดใหญ่ โครงตาข่ายกระจกสีรมควัน และระบบไฟเรืองแสงรอบกระจังหน้า ที่สื่อถึงความลงตัวระหว่างมรดกทางดีไซน์และยุคดิจิทัล

 

Markus Schäfer ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ Mercedes-Benz Group กล่าวถึงรถต้นแบบคันนี้ว่า “Vision Iconic คือวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของการเดินทาง” โดยนำเสนอเทคโนโลยีระดับแนวหน้า เช่น ระบบคอมพิวเตอร์แบบ Neuromorphic Computing ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Steer-by-Wire สีเคลือบพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Paint และระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ Level 4 ที่พร้อมยกระดับมาตรฐานของยุคไฟฟ้าและดิจิทัลให้สูงยิ่งขึ้น

 

ภายใต้เส้นสายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคทองของการออกแบบรถยนต์ช่วงทศวรรษที่ 1930 Gorden Wagener หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Mercedes-Benz ได้อธิบายว่า Vision Iconic คืองานประติมากรรมซึ่งหลอมรวมความหรูหราเหนือกาลเวลากับศิลปะแบบ Art Deco อย่างลงตัว ตัวถังดูสง่างามด้วยฝากระโปรงหน้ายาวรับกับเส้นโค้งพลิ้วไหว ส่วนห้องโดยสารให้บรรยากาศแบบเลานจ์สุดหรู มาพร้อมเบาะยาวกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม รายละเอียดตกแต่งด้วยทองเหลืองและมุกมาร์เกอทรี รวมถึงพวงมาลัยสี่ก้านที่มีโลโก้ Mercedes ลอยอยู่ในทรงกลมแก้วราวกับอัญมณี

 

Mercedes-Benz ยังเปิดตัวนวัตกรรม Solar Coating ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเคลือบผิวตัวถังที่สามารถผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ได้โดยตรง โดยพื้นผิวขนาด 11 ตารางเมตรบนตัวถังสามารถสร้างพลังงานเพียงพอสำหรับระยะทางสูงสุดถึง 12,000 กิโลเมตรต่อปี (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) ภายใต้สภาพแสงแดดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางและลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก ทั้งยังเป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายและไม่ใช้แร่หายาก

 

ด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Vision Iconic มาพร้อมระบบช่วยขับขั้นสูงระดับ Level 2+ ที่สามารถจัดการสถานการณ์จราจรในเมืองได้อย่างชาญฉลาด พร้อมพัฒนาศักยภาพสู่ระบบ Level 4 ที่ให้ผู้ขับสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ระหว่างเดินทางบนทางด่วน รวมถึงระบบจอดอัตโนมัติที่ทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เสริมด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ Steer-by-Wire ที่มอบความรู้สึกใหม่ในการควบคุม พร้อมปรับปรุงความคล่องตัวและความสะดวกในการจอดในทุกสภาพพื้นที่

 

นอกจากยนตรกรรมต้นแบบแล้ว Mercedes-Benz ยังนำเสนอคอลเลกชันแฟชั่นสุดพิเศษ “Vision Iconic Capsule Collection” ที่ออกแบบควบคู่กับตัวรถ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากโทนสีน้ำเงินเข้มและทอง-เงิน พร้อมเส้นสายเรขาคณิตแบบ Art Deco ซึ่งเปิดตัวพร้อมงานแฟชั่นวีคที่เซี่ยงไฮ้ในช่วงเดียวกับการเปิดตัว Vision Iconic และเพื่อสรุปแนวทางดีไซน์ยุคใหม่ของแบรนด์ Mercedes-Benz ยังได้จัดทำหนังสือพิเศษ ICONIC DESIGN Book ที่รวบรวมแนวคิด “New Iconic Era” ถ่ายทอดผ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารระดับสูง พร้อมภาพถ่ายและแนวทางออกแบบในอนาคตของแบรนด์ดาวสามแฉกอย่างสมบูรณ์แบบ

ที่มา: Mercedes-Benz