Cadillac เตรียมยุติบทบาทของซีดานสมรรถนะสูง CT4 และ CT5 ลงภายในปี 2026 โดยยังคงเตรียมพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปรุ่นต่อไปให้กับ CT5 รุ่นใหม่ ที่จะยังใช้ขุมพลังเบนซิน แม้จะอยู่ในช่วงที่ตลาดรถหรูทั่วโลกกำลังเร่งเข้าสู่ยุคของขุมพลังไฟฟ้าล้วนอย่างเต็มรูปแบบก็ตาม
ตามจดหมายจาก John Roth รองประธานฝ่าย Global Cadillac ยืนยันว่า CT4 จะยุติการผลิตในเดือนมิถุนายน 2026 ส่วน CT5 จะวางจำหน่ายต่อไปถึงปลายปี 2026 ทั้งคู่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในด้านการขับขี่ที่เฉียบคม เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และคุณภาพงานประกอบระดับพรีเมียม โดย CT4 ถือเป็นซีดานหรูพืกัด Compact sedan คันสุดท้ายจากผู้ผลิตสัญชาติอเมริกัน หลังจากที่ Buick Dodge และ Chevrolet ถอนตัวจากตลาดซีดานไปก่อนหน้านี้
ถึงกระนั้น Cadillac ยังเตรียมสืบสานตำนานของ CT5 ด้วยรุ่นใหม่ที่ยังใช้เครื่องยนต์สันดาปต่อไป ซึ่งจะผลิตที่โรงงาน Lansing Grand River Assembly เช่นเดิม ถึงแม้ยังไม่ยืนยันช่วงเวลาที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
สิ่งที่น่าเสียดายคือ รุ่นสมรรถนะสูงอย่างตระกูล V-Series และ Blackwing ก็จะสิ้นสุดการผลิตไปพร้อมกัน โดย CT4-V Blackwing ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบทวินเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 472 แรงม้า ส่วน CT5-V Blackwing มาพร้อมขุมพลังเบนซิน V8 ความจุ 6.2 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 668 แรงม้า ถือเป็นซีดาน V8 เกียร์ธรรมดาคันสุดท้ายของโลกที่ยังทำตลาดอยู่ในขณะนี้
แม้จะต้องบอกลารถขับหลังสมรรถนะสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cadillac แต่การที่ CT5 รุ่นต่อไปยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน แสดงให้เห็นว่าแบรนด์หรูจากดีทรอยต์ยังไม่หมดศรัทธาเครื่องยนต์สันดาปและหันไปเข้าลัทธิ EV ในทันที เราอาจได้เห็น CT5-V Blackwing กลับมาอีกครั้งในอนาคตอันใกล้
Cadillac CT4 และ CT5 คือสัญลักษณ์ของยุคสุดท้ายแห่งความดิบ เท่ และทรงพลังของเครื่องยนต์สันดาปล้วน ก่อนที่แบรนด์จะก้าวเข้าสู่อนาคตไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายใต้ตระกูล IQ อย่าง Celestiq Lyriq และ Optiq
