ตลอดระยะเวลา 100 ปี ชื่อ Phantom จาก Rolls-Royce คือสัญลักษณ์สูงสุดแห่งความสำเร็จและรสนิยมอันล้ำค่า และมักจะถูกเลือกโดยบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ในโอกาสครบรอบศตวรรษของชื่อรุ่นอันทรงเกียรตินี้ Rolls-Royce Motor Cars จึงเปิดตัวรุ่นพิเศษ Phantom Centenary Private Collection จำนวนจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น โดยทีม Bespoke Collective ของแบรนด์ ที่ประกอบด้วยนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือระดับสูงได้ถ่ายทอดความสามารถและจินตนาการอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่สะท้อนทั้งประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของ Phantom จากอดีตจนถึงอนาคต
งานออกแบบภายนอกของ Phantom Centenary ได้แรงบันดาลใจจากยุคทองของฮอลลีวูด ที่ Phantom เคยเป็นพาหนะคู่ใจของดาราและสุภาพบุรุษชั้นสูง ตัวถังใช้โทนสีทูโทนผสมผสานระหว่างสีขาว “Super Champagne Crystal over Arctic White” กับสีดำ “Super Champagne Crystal over Black” ผสมเกล็ดแก้วระยิบระยับในชั้นเคลือบใส เพิ่มมิติแวววาวราวอัญมณี ปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ที่รังสรรค์ขึ้นใหม่จากต้นแบบดั้งเดิมของ Phantom I หล่อด้วยทองคำแท้ 18 กะรัต ชุบทอง 24 กะรัตอย่างพิถีพิถัน และประดับตรา “Phantom Centenary” ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน Hallmark แห่งลอนดอน
ตราสัญลักษณ์ “RR Badge of Honour” บนกระจังหน้า ท้ายรถ และข้างตัวถัง ถูกผลิตขึ้นด้วยทองคำ 24 กะรัตและเคลือบด้วยอีนาเมลขาว เพิ่มความหรูหราเหนือระดับ ล้อดีไซน์พิเศษแบบ Phantom disc wheels สลักเส้นขีด 25 เส้นบนแต่ละวง เพื่อแทนจำนวนรถ 25 คันในคอลเลกชันนี้ และเมื่อรวมกันครบทั้งคัน จะมีทั้งหมด 100 เส้นพอดี เป็นการสื่อถึง 100 ปีแห่งประวัติศาสตร์ของ Phantom
ภายในห้องโดยสารของ Phantom Centenary เปรียบเสมือนการร้อยเรียงเรื่องราวของ Phantom ตลอดหนึ่งศตวรรษ ผ่านวัสดุสุดหรูและงานศิลป์ระดับหัตถศิลป์ ในสไตล์ที่ผสมผสานผ้าและหนังเช่นเดียวกับ Phantom ยุคแรก ๆ โดยห้องโดยสารด้านหลังใช้ผ้าหรูหรา ส่วน Cockpit ด้านหน้าใช้หนังแท้คุณภาพสูง

แรงบันดาลใจจาก Phantom of Love ปี 1926 ทำให้เบาะหลังของรุ่นนี้โดดเด่นด้วยผ้าทอลวดลายพิเศษสามชั้น ชั้นแรกพิมพ์ภาพสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce ชั้นที่สองเป็นภาพรถ Phantom ในแต่ละยุค ส่วนชั้นสุดท้ายคือการปักลายด้วยด้ายทองคำ “Golden Sands” และด้าย “Seashell” กว่า 160,000 ฝีเข็ม ผลงานนี้ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 12 เดือนร่วมกับสตูดิโอแฟชั่นระดับ Haute Couture ก่อนจะถูกติดตั้งด้วยเทคนิคเดียวกับการตัดเย็บสูท Savile Row
บริเวณเบาะนั่งคนขับตกแต่งด้วยหนังแกะสลักลายด้วยเลเซอร์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากภาพร่างดินสอของดีไซเนอร์ Bespoke เช่น ลายกระต่าย “Roger Rabbit” ที่สื่อถึงโค้ดเนมของโครงการฟื้นฟูแบรนด์ในปี 2003 และนกนางนวลซึ่งเป็นชื่อรหัสของต้นแบบ Phantom I ในปี 1923 ขณะที่งานไม้ภายในห้องโดยสารเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลป์ชั้นสูง ใช้ไม้ Blackwood แกะสลักแผนที่เส้นทางสำคัญในชีวิตของ Sir Henry Royce ประดับด้วยทองคำแท้ 24 กะรัต และเทคนิคมาร์เคทรี 3 มิติ รวมถึงหมึกพิมพ์สามชั้นที่ละเอียดเพียง 0.13 มิลลิเมตร
ไฮไลท์ของห้องโดยสารคือผลงานประติมากรรมจากอะลูมิเนียมขัดลายแนวตั้ง 50 แผ่น เรียงซ้อนเหมือนหน้าหนังสือ พร้อมข้อความจากคำชื่นชมในรอบศตวรรษที่ผ่านมา ด้านบนเป็นเพดาน Starlight Headliner ปักด้ายกว่า 440,000 ฝีเข็ม ถ่ายทอดเรื่องราวของ Phantom ตั้งแต่ภาพ Henry Royce ใต้ต้นหม่อน ไปจนถึงการอ้างอิงถึงรถ Bluebird ของ Sir Malcolm Campbell และฝูงผึ้งกว่า 250,000 ตัวจากฟาร์มผึ้งของ Rolls-Royce ที่ Goodwood
ด้านขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส N74B68 จาก BMW V12 6.75 ลิตร พ่วงเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที ที่ตกแต่งฝาครอบด้วยสี Arctic White และเส้นสายทองคำ 24 กะรัต เป็นการเฉลิมฉลองพลังอันสง่างามที่นิยามตำนานของรถรุ่นนี้ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา Phantom Centenary Private Collection จึงไม่ใช่เพียงยนตรกรรม หากแต่คือ “บทกวีแห่งหัตถศิลป์” ที่รวมความทรงจำ ศิลปะ และความวิศวกรรมอันประณีต เพื่อสานต่อจิตวิญญาณของ Phantom ไปอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า
ที่มา: Rolls-Royce
