Honda Motor จัดงานแถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่ภายในงาน Japan Mobility Show 2025 โดยมี Toshihiro Mibe ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ เปิดวิสัยทัศน์ของ Honda ในยุคแห่งการเคลื่อนที่แห่งอนาคต โดยบูธของ Honda ในปีนี้จัดแสดงนวัตกรรมการเดินทางครอบคลุมทั้ง “บก น้ำ อากาศ และอวกาศ” เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสและทดลองขับจริง พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ของแบรนด์ที่มุ่ง “ทำให้ความฝันกลายเป็นจริง” ผ่านเทคโนโลยีการเคลื่อนที่ที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนทั่วโลก
CR-V e:HEV RS BLACK EDITION
Honda เปิดตัว CR-V e:HEV รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการประกอบจากโรงงานที่จังหวัดปราจีนบุรี ประเทศไทยเรานี่เอง โดยรถรุ่นใหม่นี้มีกำหนดวางจำหน่ายในญี่ปุ่นภายในช่วงฤดูหนาวปี 2025 นี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งความสำเร็จของ Honda CR-V หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 และนับจนถึงปัจจุบันครบรอบ 30 ปี มียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 15 ล้านคัน และกลายเป็นหนึ่งในรุ่นสำคัญระดับโลกของฮอนด้าที่ได้รับความนิยมในกว่า 150 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก CR-V ยังคงรักษาจุดเด่นด้านความอเนกประสงค์ การขับขี่สบาย และคุณภาพระดับพรีเมียม จนเป็นหนึ่งในรถยนต์ SUV ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดของฮอนด้า
CR-V รุ่นที่ 6 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในตลาดอเมริกาเหนือเมื่อปี 2022 ก่อนขยายสู่ยุโรป จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้าทั่วโลก จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้คือระบบขับเคลื่อน e:HEV ที่พัฒนาขึ้นใหม่พร้อมมอเตอร์กำลังสูง
CR-V e:HEV RS BLACK EDITION ซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดญี่ปุ่น โดยผสานความหรูหราและความสปอร์ตเข้าด้วยกัน ผ่านการตกแต่งด้วยโทนสีดำรอบคันทั้งภายนอกและภายใน เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความพรีเมียมที่แฝงไว้ด้วยพลังแบบ SUV รุ่นเรือธง มาพร้อมสีเทาพิเศษ Slate grey pearl เสริมด้วยการออกแบบภายนอกที่เฉียบคม โคมไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่ และกระจังหน้าทรงสปอร์ตเพื่อให้ภาพลักษณ์ของ SUV ระดับโลกดูหรูหราและทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัย Blind Spot Monitoring พร้อมด้วย Cross Traffic Monitor เปลี่ยนคันเกียร์เป็นแบบกดปุ่ม e-Shifter พร้อมระบบปลดล๊อคเกียร์ P เพื่อจอดขวาง
0 α (Alpha)
Mibe กล่าวถึงเป้าหมายสำคัญของ Honda ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ทั้งในผลิตภัณฑ์และกิจกรรมขององค์กรภายในปี 2050 โดย Honda เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของขุมพลังไฟฟ้าจะยังคงเดินหน้าต่อไปในระยะยาว แม้ตลาดยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านก็ตาม

0 SALOON Prototype และ 0 SUV Prototype
ในปัจจุบันบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในตระกูล Honda 0 Series ที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิด “Thin, Light, and Wise” หรือ “บาง เบา และชาญฉลาด” เพื่อพลิกนิยามใหม่ของรถ EV ที่มักถูกมองว่าหนาและหนัก โดยรถต้นแบบ Honda 0 SALOON และ Honda 0 SUV ต่างใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานเฉพาะสำหรับรถไฟฟ้า มอบพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางในขณะที่ยังคงรูปลักษณ์สปอร์ตแบบรถหรูระดับเรือธง
ในงานนี้ Honda ได้เผยโฉม Honda 0 α (Alpha) Prototype อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกของโลก รถ SUV ขุมพลังไฟฟ้าล้วนขนาดกลางที่ผสานดีไซน์เรียบหรูตามเอกลักษณ์ของตระกูล 0 Series เข้ากับบุคลิกแข็งแกร่งของรถอเนกประสงค์ ตัวถังได้รับการออกแบบให้เพรียวบางแต่ยังคงระยะความสูงจากพื้นถนนที่เหมาะสมกับการเป็น SUV ส่งผลให้ภายในโปร่งโล่งและนั่งสบาย โดยรุ่นผลิตจริงของ Honda 0 α มีกำหนดวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปี 2027 โดยเน้นตลาดหลักในญี่ปุ่นและอินเดีย
Super-ONE Prototype
Super-ONE Prototype ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานน้ำหนักเบาที่พัฒนามาจากตระกูล N Series ให้การควบคุมที่คล่องตัวและขับสนุก ขณะเดียวกันยังมาพร้อมบังโคลนซุ้มล้อที่ขยายออกซ้ายขวาเพิ่มความกว้างของฐานล้อ ช่วยให้การทรงตัวมั่นคงและให้ลุคสปอร์ตทรงพลังยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อม “BOOST Mode” โหมดขับขี่พิเศษที่เพิ่มกำลังขับและปลดล็อกสมรรถนะสูงสุดของระบบขับเคลื่อน พร้อมระบบควบคุมเสียงจำลอง Active Sound Control และการจำลองการเปลี่ยนเกียร์เสมือนจริง Virtual Step-Shift Control ที่ช่วยสร้างอารมณ์และสัมผัสการขับขี่แบบรถสปอร์ตเครื่องยนต์เบนซินอย่างสมจริง
ภายในห้องโดยสารเน้นสร้างบรรยากาศความตื่นเต้นก่อนเริ่มขับขี่ ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าสปอร์ตทรงพิเศษที่โอบรับร่างกายและผ้าหุ้มเบาะสีน้ำเงินแบบไม่สมมาตรเพิ่มความสนุกทางสายตา ชวนให้คิดถึงรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดของค่ายอย่าง Prelude แผงหน้าปัดแนวนอนช่วยลดสิ่งรบกวนสายตา เพื่อให้ผู้ขับโฟกัสกับถนนได้อย่างเต็มที่
ไฮไลท์อยู่ที่ “BOOST Mode” ที่ยกระดับความเร้าใจในการขับขี่ โดยจะเพิ่มกำลังขับเคลื่อนสูงสุดพร้อมอัตราเร่งที่ฉับไว เมื่อเปิดใช้งาน โดยระบบจะเชื่อมการทำงานระหว่าง Virtual Step-Shift Control (7 จังหวะ) กับ Active Sound Control เพื่อสร้างเสียงเครื่องยนต์จำลองที่ตอบสนองต่อการกดคันเร่งและการขับขี่ ทำให้ผู้ขับรู้สึกเหมือนกำลังควบคุมรถสปอร์ตพลังสูงอย่างแท้จริง พร้อมเอฟเฟกต์พิเศษอย่างหน้าจอมาตรวัดแบบสามช่อง (Triple Meter Display) และแสงไฟภายในห้องโดยสารที่เปลี่ยนสีตามโหมดการขับขี่ กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การได้ยิน และแรงสั่นสะเทือน ถ่ายทอดความสุขในการขับขี่แบบใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าในสไตล์ Honda อย่างเต็มรูปแบบ
Micro EV
Honda ยังเปิดตัวรถต้นแบบที่น่ารักและเรียบง่ายรุ่นล่าสุดรุ่น Micro EV ถึงแม้ Honda จะยังไม่เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคหรือขนาดตัวถังของ Micro EV แต่จากภาพรวมแล้ว รถต้นแบบคันนี้มีสัดส่วนเล็กกระทัดรัดแบบ Micro car ใกล้เคียงกันกับ Citroën Ami ที่วางจำหน่ายในยุโรป โดดเด่นด้วยตัวถังทรงเหลี่ยมพร้อมซุ้มล้อหนาแน่นตกแต่งด้วยลายตะแกรงที่มุมทั้งสี่ ขณะที่ด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้าทรงกลมคู่ ที่ยื่นออกจากตัวรถ พร้อมส่วนโค้งตรงกลางคล้ายฝากระโปรงขนาดเล็ก ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นที่เก็บยางอะไหล่ขนาดจิ๋ว
ภายในห้องโดยสารของ Micro EV เน้นความเรียบง่ายตามสไตล์รถต้นแบบ มีเบาะนั่งแบบยาวแถวเดียว พาดขวางเต็มห้องโดยสาร ส่วนแผงประตูตกแต่งด้วยวัสดุลายตะแกรงแบบเดียวกับซุ้มล้อ ด้านหน้าติดตั้งพวงมาลัยทรง yoke แทนพวงมาลัยกลมแบบปกติ โดยมีพื้นที่ให้ติดตั้งโทรศัพท์ไว้ตรงกลางพวงมาลัย ทำหน้าที่แสดงข้อมูลแทนจอมาตรวัด ส่วนคอนโซลหน้าถูกออกแบบให้เป็นชั้นวางของพร้อมช่องใส่แก้วน้ำทั้งสองฝั่ง และมี จอแสดงผลสำหรับระบบนำทาง ติดอยู่ด้านหลัง
Honda ยังไม่ยืนยันว่าจะนำ Micro EV เข้าสู่สายการผลิตหรือไม่ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าโมเดลนี้อาจพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าขนาดจิ๋วสำหรับการใช้งานในเมืองในอนาคต โดยมีแนวโน้มสูงว่าจะทำตลาดใน ญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีความนิยมรถขนาดเล็กมากกว่าอเมริกาเหนือ Micro EV จึงถือเป็นการกลับมาของแนวคิด “รถเล็กที่มอบรอยยิ้ม” ในแบบที่ Honda เคยสร้างชื่อไว้ในอดีต

ปิดท้ายด้วยการตอกย้ำแนวคิดภายใต้สโลแกนระดับโลกของ Honda “The Power of Dreams – How We Move You” ซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณของพนักงาน Honda ทั่วโลกที่พร้อมเดินหน้าท้าทายสิ่งใหม่ด้วยความฝันและความหลงใหล เพื่อสร้างคุณค่าเฉพาะตัวในโลกแห่งการเคลื่อนที่ยุคใหม่ ภายในบูธของ Honda ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสนวัตกรรมแห่งอนาคตผ่านผลิตภัณฑ์เคลื่อนที่ทุกรูปแบบ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า จักรยานยนต์ ไปจนถึงเทคโนโลยีทางอากาศและอวกาศ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของอนาคตที่ Honda มุ่งสร้างให้เกิดขึ้นจริง
ที่มา: Honda
