Honda เปิดตัวต้นแบบรถ K-Car ขุมพลังไฟฟ้าแต่งองค์ทรงเครื่องมาครบครัน Super-ONE Prototype ภายในงาน Japan Mobility Show 2025 ต่อยอดจากต้นแบบ Super EV Concept ที่เคยเผยโฉมไปก่อนหน้านี้ในงาน Goodwood Festival of Speed 2025 ที่ประเทศอังกฤษ โดยรถต้นแบบรุ่นนี้จะถูกจัดแสดงในบูธของ Honda ตลอดช่วงงาน ซึ่งจะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าชมในวันที่ 29 ถึง 30 ตุลาคม และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 9 พฤศจิกายน 2025 นี้

 

Super-ONE Prototype มาพร้อมแนวคิด “e: Dash BOOSTER” ที่มุ่งเปลี่ยนการเดินทางในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นประสบการณ์ที่สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจมากขึ้น ชื่อ “Super-ONE” สื่อถึงความตั้งใจของ Honda ที่ต้องการสร้างรถยนต์ที่มอบคุณค่าเฉพาะตัวแบบ “One and Only” และ “Super” ที่ก้าวข้ามขอบเขตและมาตรฐานเดิมของรถ BEV เพื่อมอบความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ในทุกการขับขี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้ากับความสนุกในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda

 

Super-ONE Prototype ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานน้ำหนักเบาที่พัฒนามาจากตระกูล N Series ให้การควบคุมที่คล่องตัวและขับสนุก ขณะเดียวกันยังมาพร้อมบังโคลนซุ้มล้อที่ขยายออกซ้ายขวาเพิ่มความกว้างของฐานล้อ ช่วยให้การทรงตัวมั่นคงและให้ลุคสปอร์ตทรงพลังยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อม “BOOST Mode” โหมดขับขี่พิเศษที่เพิ่มกำลังขับและปลดล็อกสมรรถนะสูงสุดของระบบขับเคลื่อน พร้อมระบบควบคุมเสียงจำลอง Active Sound Control และการจำลองการเปลี่ยนเกียร์เสมือนจริง Virtual Step-Shift Control ที่ช่วยสร้างอารมณ์และสัมผัสการขับขี่แบบรถสปอร์ตเครื่องยนต์เบนซินอย่างสมจริง

 

รถต้นแบบรุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบสมรรถนะบนถนนจริงในหลายประเทศ ทั้งญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เพื่อพัฒนาความเสถียรและความนุ่มนวลในการขับขี่ให้ดีที่สุด และเคยอวดสมรรถนะในการแข่งขัน Goodwood Festival of Speed 2025 ที่ประเทศอังกฤษ ด้วยการวิ่งขึ้นเขา (hill climb) อย่างทรงพลัง 

 

ภายในห้องโดยสารเน้นสร้างบรรยากาศความตื่นเต้นก่อนเริ่มขับขี่ ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าสปอร์ตทรงพิเศษที่โอบรับร่างกายและผ้าหุ้มเบาะสีน้ำเงินแบบไม่สมมาตรเพิ่มความสนุกทางสายตา ชวนให้คิดถึงรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดของค่ายอย่าง Prelude แผงหน้าปัดแนวนอนช่วยลดสิ่งรบกวนสายตา เพื่อให้ผู้ขับโฟกัสกับถนนได้อย่างเต็มที่

 

ไฮไลท์อยู่ที่ “BOOST Mode” ที่ยกระดับความเร้าใจในการขับขี่ โดยจะเพิ่มกำลังขับเคลื่อนสูงสุดพร้อมอัตราเร่งที่ฉับไว เมื่อเปิดใช้งาน โดยระบบจะเชื่อมการทำงานระหว่าง Virtual Step-Shift Control กับ Active Sound Control เพื่อสร้างเสียงเครื่องยนต์จำลองที่ตอบสนองต่อการกดคันเร่งและการขับขี่ ทำให้ผู้ขับรู้สึกเหมือนกำลังควบคุมรถสปอร์ตพลังสูงอย่างแท้จริง พร้อมเอฟเฟกต์พิเศษอย่างหน้าจอมาตรวัดแบบสามช่อง (Triple Meter Display) และแสงไฟภายในห้องโดยสารที่เปลี่ยนสีตามโหมดการขับขี่ กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การได้ยิน และแรงสั่นสะเทือน ถ่ายทอดความสุขในการขับขี่แบบใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าในสไตล์ Honda อย่างเต็มรูปแบบ

ที่มา: Honda