ในช่วงเวลาเดียวกันที่ Subaru กำลังเป็นที่จับตาในงาน Japan Mobility Show 2025 ด้วยรถต้นแบบจาก STI และรถอเนกประสงค์สายลุยตระกูล Wilderness แต่มีอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้ขึ้นเวทีในโตเกียว หากแต่เปิดตัวอย่างเงียบ ๆ ในโชว์รูมภายในประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือ Subaru Crosstrek Wilderness Edition ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รถรุ่นนี้มาพร้อมทริมตกแต่ง Wilderness สำหรับตลาดญี่ปุ่น แต่จะมีแนวทางการตกแต่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่นที่จำหน่ายในอเมริกาเหนือ เพื่อให้ตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่นได้อย่างเหมาะสม
Crosstrek Wilderness Edition สำหรับตลาดญี่ปุ่นจะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน มาพร้อมการตกแต่งภายนอกที่เน้นความแข็งแกร่งมากกว่าความสามารถลุยได้จริง จุดเด่นคือการตกแต่งด้วยสี ดำ Deco-Boco Black บนกระจกมองข้าง คิ้วข้างประตู และบันไดท้ายรถ ซึ่งเป็นพื้นผิวแบบด้านที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมี กระจังหน้าสีดำด้าน แผ่นกันกระแทกด้านหน้า สติ๊กเกอร์บนฝากระโปรง ชุดตกแต่งโคมไฟหน้า-ท้าย และแผ่นบังโคลนพร้อมตรา Wilderness บนฝาท้าย
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดสำหรับด้านข้าง ได้แก่ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำด้านพร้อมแถบตกแต่งสีเหลือง รัดด้วยยาง Toyo Tires Open Country A/T III ที่มีตัวอักษรสีขาวสะดุดตา แต่ช่างน่าเสียดายที่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นไม่ได้มาพร้อมช่วงล่างที่ยกสูงขึ้น หรือแม้แต่ชุดโช้คอัพแบบพิเศษ แบบรุ่นอเมริกาเหนือ ทำให้สมรรถนะในภาพรวมยังคงใกล้เคียงกับ Crosstrek รุ่นปกติในตลาด
ภายในห้องโดยสารของรุ่นพิเศษนี้แทบไม่ต่างจากรุ่นมาตรฐาน มาพร้อมไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าและพร้อมระบบอุ่น พวงมาลัยอุ่น
ส่วนขุมพลังยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน ความจุ 2.0 ลิตร e-Boxer พร้อมระบบ Hybrid ที่ให้พละกำลังรวม 145 แรงม้า (PS) จากเครื่องยนต์เบนซิน และ 14 แรงม้า (PS) จากมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออันเลื่องชื่อ Symmetrical AWD ของ Subaru ที่ถึงแม้จะมีแรงม้าน้อยกว่ารุ่นที่จำหน่ายในอเมริกาซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน ความจุ 2.5 ลิตร 182 แรงม้า แต่ก็ยังคงรักษาจุดเด่นด้านการยึดเกาะถนนไว้ได้
Crossreak Wilderness US Spec
Crosstrek Wilderness Edition จะเปิดให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นจับจองผ่านระบบจับสลากจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2025 นี้ โดยตั้งราคาจำหน่ายที่ 4,055,920 เยน (ประมาณ 853,175 บาท) สำหรับรุ่น Touring และ 4,099,920 เยน (ประมาณ 862,430 บาท) สำหรับรุ่น Limited
ที่มา: Carscoops
