Nissan เปิดตัว Navara เจเนอเรชันใหม่ อย่างเป็นทางการสำหรับตลาด Australia และ New Zealand โดยเฉพาะ พร้อมเตรียมวางจำหน่ายช่วงปลายไตรมาสแรกปี 2026 โดยรุ่นใหม่นี้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ของรถกระบะหนึ่งตันในภูมิภาคโอเชียเนีย ทั้งด้านสมรรถนะ ความทนทาน และเทคโนโลยีสมัยใหม่
อย่างไรก็ตาม คราวนี้ เนื่องจาก Navara รุ่นเดิม ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ANCAP เวอร์ชันล่าสุด สำหรับปี 2025 ทำให้ Nissan ตัดสินใจ เปิดบิลสั่งซื้อ Mitsubishi Triton จาก Mitsubishi Motors (Thailand) ส่งไปทำตลาด แทน ในฐานะ รุ่นเปลี่ยนโฉมจาก Navara รหัสรุ่น D23 เดิม ซึ่งยังคงทำตลาดในประเทศไทยต่อไปอีก 1 ปี
นับตั้งแต่ปี 1986 Navara เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของภูมิภาค โดยมียอดขายสะสมใกล้แตะระดับครึ่งล้านคัน ทำให้เจเนอเรชันใหม่มีความสำคัญต่อแบรนด์ในเชิงกลยุทธ์ทางการตลาด โดย Nissan ระบุว่าความต้องการของผู้บริโภคในออสเตรเลียมีความชัดเจน คือรถที่ใช้งานได้จริง ทนทาน และเหมาะทั้งงานบรรทุกและชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ Navara ใหม่ถูกออกแบบให้ตอบทุกบทบาทการใช้งาน Navara ใหม่จะจำหน่ายเฉพาะตัวถังกระบะ Double Cab เกียร์อัตโนมัติ สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ซื้อกว่า 90% ของรุ่นก่อนหน้า
โครงสร้างพื้นฐานของ Navara ใหม่พัฒนาบนแพลตฟอร์มพันธมิตร (Alliance Platform) ผสานการออกแบบที่มีเอกลักษณ์แบบ Nissan และการปรับจูนช่วงล่างเฉพาะสำหรับภูมิประเทศออสเตรเลีย โดยความร่วมมือกับทีมวิศวกรรมท้องถิ่น ด้านงานวิศวกรรมช่วงล่างของ Navara ใหม่ผ่านการทดสอบทั้งบนถนนเรียบ ออฟโรด และการลากจูงหนัก เพื่อให้ได้ความสมดุลของความสบายและความแข็งแกร่ง รวมถึงรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดและการลากจูงได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติหลักที่กลุ่มผู้ใช้ในออสเตรเลียให้ความสำคัญ
ดีไซน์ภายนอกยังคง DNA แบบกระบะ Nissan แต่ถูกตีความใหม่ให้ทันสมัยขึ้น เช่นกระจังหน้าแบบ “Bull Bar-Inspired V-Shield”, ไฟหน้าแบบ C-Shape และแถบสามช่องด้านบนกระจังที่อ้างอิงจาก Navara รุ่น D21 รุ่นท็อปอย่าง PRO-4X มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำ สปอร์ตบาร์ ยาง All-Terrain และชุดตกแต่งสีแดง Lava Red เพิ่มภาพลักษณ์พร้อมลุยมากขึ้น
ห้องโดยสาร ยกชุดมาจาก Triton ใหม่ทั้งยวง แต่เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นหน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto และในรุ่นสูงมีแท่นชาร์จไร้สาย ในรุ่น ST-X และ PRO-4X ฟังก์ชัน Connected Services ภายใต้ระบบ MyNISSAN Navara ยังเพิ่มบริการ เช่น Remote Start Remote Lock/Unlock และ Vehicle Tracking
Navara ใหม่ติดตั้งถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง และระบบความปลอดภัย ADAS ครบชุด เช่น
- Emergency Lane Assist
- Blind Spot Warning + Lane Change Assist
- Front/Rear Cross Traffic Alert
- Adaptive Cruise Control (ออฟชั่น)
- Driver Monitoring
- Intelligent Speed Limiter
- High Beam Assist
ขุมพลัง ก็เป็นบล็อกเดียวกับ Triton เวอร์ชันไทย ไม่ผิดเพี้ยน เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ จาก Mitsubishi ให้พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมพวงมาลัยไฟฟ้า EPS และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Easy 4WD (Part-Time) หรือ Super 4WD (Full-Time)
พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ เช่น Normal Eco Gravel Snow Mud Sand and Rock โดยระบบ Super 4WD จะมาพร้อมฟังก์ชั่นเฟืองท้ายล๊อคไฟฟ้า รองรับการใช้งานตั้งแต่ถนนเมืองไปจนถึงพื้นที่ออฟโรดโหดสมบุกสมบัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 7.7 ลิตร/100 กม.
ขอย้ำกันตรงนี้ว่า Nissan NAVARA Australian / New Zealand Version รุ่นนี้ จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานของ Mitsubishi Motors (Thailand) ที่แหลมฉบัง เพื่อส่งออกไปทำตลาดใน สองประเทศ ดังกล่าว เท่านั้น และจะยังไม่มีแผนการผลิตเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ หรือทำตลาดในประเทศไทย ทั้งสิ้น!
ที่มา: Nissan
