เรามาถึงจุดที่เครื่องยนต์สูบนอน Boxer อาจไม่ได้ผลิตจาก Porsche หรือ Subaru อีกต่อไป เพราะว่าล่าสุดค่ายยักษ์ใหญ่แดนมังกรอย่าง BYD ได้อัพโหลดวิดีโอผ่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์แบบละเอียดของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมคำอธิบายเชิงเทคนิคโดยศาสตราจารย์ Xu Min จากมหาวิทยาลัย Shanghai Jiao Tong University โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบขึ้นมาใช้กับงานวิศวกรรมพื้นฐาน e⁴ ของ BYD และถูกระบุว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการใช้เครื่องยนต์แบบสูบนอนในรถขุมพลัง Plug-in Hybrid ตามรายงานของสำนักข่าว IT-Homeฃ
เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบเรียงสูบทั่วไป (Inline engine) การออกแบบแบบสูบนอนช่วยลดความสูงในแนวดิ่งของเครื่องยนต์ รวมถึงมีความสมดุลของมุมการเคลื่อนที่ของลูกสูบ จึงลดแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ค่า NVH (Noise Vibration และ Harshness) หรือเสียงรบกวนต่างๆ ดีขึ้น
เครื่องยนต์รุ่นนี้จะถูกใช้ครั้งแรกใน Yangwang U7 ซึ่งติดตั้งอยู่ในโครงสร้างโมดูลด้านหน้าที่ถูกเรียกว่า “Six-Core Module” ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เครื่องยนต์เบนซิน 2.0T Boxer พร้อมชุดกำเนิดไฟฟ้า (Generator) และชุดแม่เหล็กไฟฟ้า 2 จุดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วงล่าง BYD DiSus-Z
ถึงแม้บทบาทหลักของเครื่องยนต์นี้คือการผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อป้อนให้ระบบขับเคลื่อน แต่ในบางสถานการณ์ เครื่องยนต์สามารถส่งแรงบิดโดยตรงไปยังเพลาหลังได้ โดย BYD ระบุว่าระบบขับเคลื่อนทั้งหมดให้กำลังรวมสูงสุด 272 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร
เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความเงียบและความกะทัดรัด เครื่องยนต์นี้ใช้ระบบหล่อลื่นแบบ Dry-sump พร้อมโครงสร้างจัดการน้ำมันหล่อลื่นและระบบระบายความร้อนที่ออกแบบใหม่สำหรับเครื่องยนต์แบบสูบนอน นอกจากนี้ยังมีชุดลดเสียงรบกวนโดยเฉพาะทาง อาทิ ฝาครอบลูกรอกแคมชาฟท์แบบพิเศษและโซ่ราวลิ้นคู่ ซึ่งช่วยลดเสียงกลไกขณะทำงาน
BYD ระบุว่าในรอบเดินเบาและโหลดต่ำ ระดับเสียงของเครื่องยนต์มากกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าเพียง 1 เดซิเบล ซึ่งแทบแยกไม่ออกขณะขับขี่ทั่วไป จุดเด่นสำคัญอีกประการคือการออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยรายงานระบุว่าตัวเครื่องยนต์มีความสูงเพียง 420 มิลลิเมตร ช่วยให้มีพื้นที่ใต้ฝากระโปรงมากขึ้น และช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของรถ
ในวิดีโอ BYD ยังสาธิตการผสานขุมพลังนี้เข้ากับความสามารถของงานวิศวกรรมพื้นฐาน e⁴ ที่รองรับฟังก์ชันอื่นๆ เช่น Crab-walk (เคลื่อนที่แนวข้าง) และการหมุนรถในที่แคบ (Tank-turn) ด้วยการควบคุมมอเตอร์แต่ละล้อแยกจากกันอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นระบบยังสามารถควบคุมกำลังของเครื่องยนต์ตามสถานะของแบตเตอรี่ (SOC) เพื่อการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่มา: Carnewschina
