เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2025 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชาวจีน Nio ได้ประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 3 โดยบริษัทมียอดส่งมอบรถยนต์รวม 87,071 คัน เพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีรายได้รวมอยู่ที่ 21.79 พันล้านหยวน หรือประมาณ 99,221,440,490 บาท เพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 14.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 13.9% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (10.7%) และไตรมาสก่อนหน้า (10.0%) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของตัวรถอยู่ที่ 14.7% เพิ่มขึ้นจาก 13.1% ในปีก่อนและ 10.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ตามรายงานของสื่อยานยนต์ท้องถิ่น Auto-home
ในส่วนของฐานะการเงิน Nio ระบุว่ามีเงินสดหมุนเวียน เงินลงทุนระยะสั้น-ยาวและรายการเทียบเท่าเงินสดรวม 36.7 พันล้านหยวน หรือประมาณ 167,089,448,200 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2025 โดยบริษัทระบุว่า กระแสเงินสดจากการดำเนินงานและกระแสเงินสดอิสระเป็นบวกในไตรมาสนี้
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 นี้ บริษัทคาดการณ์ยอดส่งมอบรถยนต์อยู่ระหว่าง 120,000–125,000 คัน หรือเติบโต 65.1–72.0% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่รายได้คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 32.76–34.04 พันล้านหยวน (ประมาณ 149,132,234,160–154,959,134,640 บาท) เทียบเท่าอัตราการเติบโตสูงสุด 72.8% หากสามารถทำได้จะนับเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัท
สำหรับขุนพลที่ทางแบรนด์ใช้บุกตลาด Nio ได้เปิดตัว ES8 เจเนอเรชันใหม่ และรุ่นพิเศษ ET9 Horizon Edition โดย ES8 ส่งมอบไปได้จำนวน 10,000 คันภายใน 41 วัน นอกจากนี้แบรนด์ Onvo รุ่น L90 ยังส่งมอบไปจำนวน 30,000 คันภายใน 86 วัน และแบรนด์ Firefly ก็ทำยอดขายสะสมได้ 30,000 คัน พร้อมขยายตลาดรถพวงมาลัยขวาสู่ยุโรปอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับความเป็นไปได้ที่จะทำตลาดในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา: Carnewschina
