ย้อนไปเมื่อปี 2021 Lotus เคยประกาศว่าจะเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าล้วน 100% นับตั้งแต่การตั้งโรงงานใหม่ เริ่มต้นด้วยการพัฒนางานวิศวกรรมใหม่ ไปจนถึงการตัดขาดจากยุคเครื่องยนต์สันดาปของแบรนด์ในอดีต อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความต้องการรถไฟฟ้าที่เติบโตช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะในกลุ่มรถหรู ทำให้ทิศทางของบริษัทต้องเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

ทำให้ในปัจจุบัน Lotus ต้องปรับกลยุทธ์สู่การผลิตรถ Plug-in hybrid  (PHEV) แทน โดยรถรุ่นแรกที่จะเปิดตัวคือ Eletre Plug-In Hybrid ซึ่งมีกำหนดเผยโฉมอย่างเป็นทางการทั่วโลกในช่วงต้นปีหน้า ขณะเดียวกันยังมีรถรุ่นใหม่ตามมาอีกหลายรุ่น รวมถึงรถ SUV ขนาดเล็กกว่าที่เตรียมเปิดตัวในปี 2027 เพื่อขยายไลน์ผลิตและเพิ่มยอดขายในตลาดสำคัญๆ

 

CEO ของ Lotus Feng Qingfeng เปิดเผยรายละเอียดแผนดังกล่าวในรายงานผลประกอบการล่าสุด โดย Eletre PHEV จะเป็นหัวหอกของกลยุทธ์ใหม่ที่ Lotus เรียกว่า “Hyper Hybrid” ที่ใช้ขุมพลัง Hybrid พละกำลังสูง ผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบสมรรถนะสูง ทำงานภายใต้สถาปัตยกรรมแรงดันไฟฟ้าสูง 900 โวลต์ 

 

Lotus จะนำ Eletre PHEV บุกตลาดจีนเป็นประเทศแรกในช่วงต้นปี 2026 จากนั้นจะตามไปวางจำหน่ายที่ตลาดยุโรปในช่วงปลายปี ส่วนภูมิภาคอื่นจะทยอยเปิดตัวตามลำดับ โดย Lotus จะให้ความสำคัญกับตลาดที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่รถ BEV เช่นเดียวกับสตลาดอเมริกาเหนือ

ทั้งนี้ Lotus ยืนยันว่ากำลังพัฒนานถ PHEV ใหม่ทั้งหมด 3 รุ่น ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าจะใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Geely บริษัทแม่ของแบรนด์ และจะเป็นกำลังพลสำคัญในการนำแบรนด์กลับมาสร้างยอดขายอีกครั้ง

 

รายงานล่าสุดชี้ว่า Lotus ต้องเร่งปรับกลยุทธ์ เนื่องจากยอดขายอ่อนแรง การส่งออกสะดุด และบริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายพร้อมโยกย้ายบางส่วนของการผลิต ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 Lotus ส่งมอบรถทั่วโลกเพียง 4,612 คัน ลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยกเว้นตลาดจีนที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทต้องมองหาทางออกที่มั่นคงขึ้นในเชิงธุรกิจ

ที่มา: Autoblog