เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 Renault เปิดตัวรถ Hatchback ขุมพลังไฟฟ้าล้วน Twingo E-Tech รุ่นใหม่ ที่รักษาเอกลักษณ์และเสน่ห์แบบต้นฉบับแต่ได้เพิ่มความสดใสและเป็นมิตรต่อเมืองมากยิ่งขึ้น โดยนำงานออกแบบมาจากรถต้นแบบที่เปิดตัวในปี 2023 มาปรับใช้ งานออกแบบที่แตกต่างและดึงดูดสายตาตั้งแต่แรกเห็น

 

ด้วยความยาวเพียง 3,790 มม. และน้ำหนักประมาณ 1,200 กก. ที่ถือว่าน้อยสำหรับรถ EV พิกัดเดียวกันเป็นผลมาจากแบตเตอรี่ความจุต่ำ Twingo ยังมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารระดับผู้ใหญ่นั่งได้สบายและยังเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังเลื่อนหน้า-หลังสัดส่วน 60-40 แยกอิสระได้ระยะไกลสุดถึง 170 มม. ทำให้ห้องเก็บของสามารถขยายความจุได้สูงสุดถึง 360 ลิตร หรือมากกว่า 1,000 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลงทั้งหมด ตัวเลขนี้เหนือกว่า Fiat 500e Renault 5 และแม้แต่ VW Golf เสียอีก พร้อมพื้นที่เก็บของใต้พื้น 50 ลิตรที่ยังใช้งานได้แม้ท้ายรถเต็ม

 

ห้องโดยสารเน้นความสนุกสนานแต่ก็ยังควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลตกแต่งด้วยสีสันตามตัวรถ ลาย “Twingo alphabet” บนเพดาน และหัวเกียร์ e-pop ทรงลิปสติกสุดเก๋ติดตั้งอยู่บริเวณคอพวงมาลัย ที่สามารถปรับเลือกสีได้ หน้าจอ Infotainment ของผู้ขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และจอกลางขนาด 10 นิ้ว พร้อม Google Maps Google Assistant และผู้ช่วยส่วนตัว “Reno” ที่ตอบคำถามและให้ข้อมูลชาร์จไฟด้วยเสียงพิเศษจากนักร้องชาวฝรั่งเศส Jean-Michel Jarre

 

Twingo ใหม่พัฒนาบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน AmpR Small แบบย่อส่วนร่วมกันกับ Renault 4 Renault 5 และ Nissan Micra เจเนอเรชันถัดไป โดยเลือกใช้แบตเตอรี่แบบ LFP ความจุเพียง 27.5 kWh เพื่อลดต้นทุนและเหมาะกับการใช้งานในเมือง ถึงแม้จะมีแบตเตอรี่ความจุน้อยแต่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จถึง 262 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) ซึ่งเหนือกว่า Volkswagen ID. Every1 รถต้นแบบของคู่แข่งโดยตรงที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที ขณะที่การชาร์จเร็ว DC จำกัดกำลังไฟฟ้าสูงสุดไว้ที่ 50 kW แต่ก็เพียงพอสำหรับการเติมพลังจาก 10–80% ภายในเวลา 30 นาที

 

ในด้านสมรรถนะ Twingo E-Tech มีมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาล้อคู่หน้า ให้พละกำลังสูงสุด 81 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่งจากความเร็ว 0–100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 12.1 วินาที แม้ตัวเลขจะไม่หวือหวา แต่ Renault ตั้งใจให้รถรุ่นนี้เป็นเพื่อนคู่ใจคนเมืองมากกว่ารถ EV ที่เน้นสมรรถนะและอัตราเร่ง ดังนั้นจุดเด่นของจริงจึงไม่ได้อยู่ที่ความแรง แต่เป็นการจัดสรรพื้นที่ภายในที่ทำได้เกินขนาดตัวถัง

 

ถึงแม้จะไม่ได้โดดเด่นด้านระยะทางวิ่งสูงสุดหรืออัตราเร่ง แต่ Twingo E-Tech ใหม่ก็ถูกจริตตลาดรถคนเมือง ทั้งงานออกแบบ ลักษณะการใช้งานจริงและพื้นที่ใช้สอยที่เหลือเฟือ หาก Renault สามารถกดราคาจำหน่ายได้ต่ำกว่า 20,000 ยูโร (ประมาณ 741,100 บาท) อย่างที่ตั้งเป้าไว้ รถคันนี้มีศักยภาพจะเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยม และอาจแย่งยอดขายจาก Renault 5 E-Tech ภายในค่ายเดียวกันเองด้วย เราคงต้องรอติดตามว่าเมื่อถึงปี 2026 Volkswagen ID. Up จะสวนหมัดหนักแค่ไหนเมื่อทั้งคู่ขึ้นชกในพิกัดเดียวกัน

ที่มา: Carscoops