Toyota Aqua รุ่นล่าสุด เปิดตัวแล้วพร้อม platform TNGA แบบ GA-B ซึ่งมีระยะฐานล้อยาวกว่าเดิม 50 มิลลิเมตร มาพร้อมกับขุมพลัง 1.5 ลิตร Hybrid THS II เพื่อสานต่อความสำเร็จรุ่นพี่ที่มียอดขายสะสม นับจากรุ่นแรกรวมกันทั่วโลก 1.87 ล้านคัน และ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปราว 12.4 ล้านตัน

Toyota Aqua ออกแบบเส้นสายตัวถังให้คงเอกลักษณ์ของรุ่นเอาไว้ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 9 สี รวมถึงสีใหม่อย่างสีเบจ Clear Beige Metallic ภายในเพิ่มความประณีตด้วยการนำหนังสังเคราะห์มาบุนุ่ม เสริมประโยชน์ใช้สอยอย่างกล่องเก็บของฝั่งผู้โดยสารหน้าใส่กล่องทิชชู่ได้, เบาะปรับไฟฟ้า, ช่องจ่ายกระแสไฟ AC 100 โวลต์ 1,500 วัตต์ และ ครั้งแรกของรถยนต์ Compact ของค่ายกับหน้าจอสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว

ขุมพลังของ Toyota Aqua เป็น เครื่องยนต์เบนซิน รหัส M15A-FXE แบบ 3 สูบ ขนาด 1,490 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ที่ 3,800 – 4,800 รอบ/นาที พร้อมระบบ THS II Hybrid มาพร้อมแบตเตอรี่ bipolar nickel-metal hydride ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ให้สมรรถนะดีกว่าแบบเดิม 1.5 เท่า และ ติดตั้ง cell ได้มากกว่า 1.4 เท่า

ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า รหัส 1NM กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-FOUR เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง รหัส 1MM กำลังสูงสุด 6.4 แรงม้า ในรุ่นย่อย Z, G, X และ 5.3 แรงม้า ในรุ่นย่อย B แรงบิดสูงสุด 52 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยที่ 35.8 กิโลเมตร/ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบแบบ WLTC

ระบบความปลอดภัยของ Toyota Aqua มี Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีทั้งระบบลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุขณะเลี้ยวผ่านแยก, ระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้าในทุกย่านความเร็ว, ระบบหน่วงพวงมาลัย รักษาตำแหน่งรถยนต์ให้อยู่กลางช่องจราจร และ ระบบป้องกันอุบัติเหตุจากการเหยียบคันเร่งผิดแป้น

Toyota Aqua เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2021 ตั้งเป้ายอดขาย 9,800 คันต่อเดือน ผลิตขึ้นจากโรงงานในย่านอุตสาหกรรม Iwate ประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อยหลัก คือ B, X, G และ Z สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 1,980,000 – 2,598,000 เยน (ราว 589,000 – 773,000 บาท)

ที่มา: Toyota