Mercedes-Benz ได้เผยโฉม CLA Shooting Brake รุ่นใหม่ที่โดดเด่นแบบเดียวกับ CLA ตัวถังซีดาน เน้นการออกแบบศูนย์กลาง ภายในกว้างขวางยิ่งขึ้นและทันสมัยด้วยหน้าจอ Superscreen ของระบบ MBUX ที่ถูกออกแบบให้เสมือนลอยอยู่ในอากาศ สร้างบรรยากาศห้องโดยสารที่หรูหรา โปร่งโล่ง และสบายตาแบบที่ไม่เคยมีในรถระดับเดียวกันมาก่อน

รูปลักษณ์ด้านหน้ามีความดุดันแบบ “shark nose” พร้อมแผงหน้าดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยดาว LED โครเมียมจำนวน 142 ดวง และไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่เป็นออฟชั่นเสริม ด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้ายรูปดาวเชื่อมต่อด้วยแถบไฟ LED ต่อเนื่อง

 

เส้นหลังคาทอดยาวไปด้านหลังพร้อมกระจกหลังคาพาโนรามาแบบชิ้นเดียวที่เชื่อมตั้งแต่กระจกหน้าจรดบานประตูท้าย เสริมความพิเศษด้วยสปอยเลอร์ทูโทนที่ให้ความรู้สึกว่าหลังคากระจกต่อเนื่องกับกระจกหลัง

หลังคากระจก Panoramic ที่สามารถเปลี่ยนความโปร่งแสงได้ภายใน 10–20 มิลลิวินาที ช่วยป้องกันแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในโหมดทึบแสง อีกทั้งยังมีลูกเล่นสุดพิเศษด้วยดาวเรืองแสง 158 ดวงบนกระจกที่เชื่อมกับระบบไฟภายในห้องโดยสาร มอบบรรยากาศสุดโรแมนติกยามค่ำคืน

 

วัสดุและสีสันภายในห้องโดยสารมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังสังเคราะห์ ARTICO ร่วมกับผ้าหรือหนังแท้ โดยมีให้เลือกตั้งแต่สีดำคลาสสิก ไปจนถึงสีเบจงาช้างและน้ำตาลบีช ขณะที่แผงตกแต่งภายในมีตั้งแต่พื้นผิวอะลูมิเนียมขัดลายแบบใหม่ คาร์บอนไฟเบอร์ ลายไม้ หรือผิวสัมผัสแบบกระดาษ ขณะที่สีตัวถังภายนอกมีทั้งแบบสีพื้นและเมทัลลิก รวมถึงสีใหม่เฉพาะรุ่น ได้แก่ สี Aquamint Solid และ Sapphire Blue Metallic

พวงมาลัยรุ่นใหม่ใน CLA Shooting Brake ได้รับการออกแบบตามหลัก Ergonomics เพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดย Mercedes-Benz ได้นำสวิตช์ควบคุมแบบโรลเลอร์ (หมุนปรับเสียง) และโยก (เปิด/ปิดระบบควบคุมความเร็ว DISTRONIC) กลับมาอีกครั้งตามเสียงเรียกร้องจากลูกค้า โดยปุ่มสัมผัสแบบ capacitive ถูกออกแบบให้มีการรับรู้ที่ชัดเจนขึ้น พร้อมกับการปรับลดฟังก์ชันบางส่วนเพื่อความเรียบง่ายในการใช้งาน

 

หน้าจอ Superscreen สามจอพร้อมกราฟิกเรียลไทม์จาก Unity Game Engine ที่ครอบคลุมความกว้างทั้งแผงหน้าปัด ประกอบด้วยจอคนขับขนาด 10.25 นิ้ว จอกลางขนาด 14 นิ้ว และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าอีก 14 นิ้ว ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น Disney+ RIDEVU จาก Sony Pictures รวมถึงเล่นเกมระดับ AAA ผ่านคลาวด์ Boosteroid ได้โดยใช้จอยเกม Bluetooth หรือโทรศัพท์มือถือ

หากไม่มีการเลือกติดตั้งจอฝั่งผู้โดยสาร แผงตกแต่งจะถูกแทนที่ด้วยลวดลายดาว Mercedes พร้อมไฟพื้นหลัง ขณะที่ Head-up Display แบบใหม่แสดงภาพเสมือนลอยกลางอากาศขนาด 12.2 นิ้ว ห่างจากผู้ขับประมาณ 2.8 เมตร

CLA Shooting Brake ใหม่เป็นรุ่นที่สองที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ MB.OS ซึ่งเชื่อมต่อกับ Cloud service อัจฉริยะของ Mercedes-Benz และรองรับการอัปเดตแบบ Over-the-Air ครอบคลุมทั้งระบบความบันเทิง ระบบช่วยขับขี่และฟังก์ชันยานยนต์หลักๆ ทำให้รถยนต์สามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอดอายุการใช้งาน

MB.OS ยังมาพร้อมผู้ช่วยเสมือน MBUX Virtual Assistant รุ่นใหม่ที่ใช้ AI จาก Microsoft และ Google สามารถสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ จดจำบริบทของการพูด และโต้ตอบได้ตามอารมณ์ของผู้ขับขี่ รวมถึงแสดงผลในรูปแบบ “อวตาร” ที่เคลื่อนไหวได้ในจอกลาง

ระบบนำทาง Mercedes Navigation with Electric Intelligence ได้รับการพัฒนาให้รวมข้อมูลจาก Google Maps กับข้อมูลเรียลไทม์จากตัวรถ ช่วยคำนวณเส้นทางที่เร็วที่สุดพร้อมการแวะชาร์จที่เหมาะสมที่สุด และสามารถปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่ล่วงหน้าเพื่อให้พร้อมสำหรับการชาร์จเร็ว DC

 

CLA Shooting Brake แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • CLA 250+ Shooting Brake ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์เดี่ยว กำลัง 272 แรงม้า วิ่งได้ไกลสุดถึง 761 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.0 วินาที
  • CLA 350 4MATIC Shooting Brake ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์คู่ กำลังรวม 354 แรงม้า วิ่งได้ไกลสุด 730 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.8 วินาที

ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ NMC ความจุ 85 kWh พร้อมแอโนดที่ผสมซิลิกอนไดออกไซด์เพื่อเพิ่มความหนาแน่นพลังงานและรองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุดถึง 320 kW สามารถชาร์จระยะทางวิ่งได้ถึง 310 กม. ภายในเวลาเพียง 10 นาที ส่วนการชาร์จ AC รองรับกำลังไฟฟ้าสูงสุด 22 kW

ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ PSM ร่วมกับเกียร์สองสปีดบนเพลาหลัง เกียร์แรกเน้นอัตราเร่งในเมือง ส่วนเกียร์สองเน้นประสิทธิภาพการขับทางไกล พร้อมระบบเบรกใหม่แบบ one-box ที่เน้นการชะลอด้วยพลังงานไฟฟ้า (regenerative braking) โดยสามารถสร้างแรงชะลอจากการชาร์จกลับสูงสุดถึง 200 กิโลวัตต์

Mercedes-Benz ยังมีแผนเพิ่มรุ่นย่อยในไลน์อัป CLA Shooting Brake EV ในช่วงต้นปีหน้า โดยเน้นสมดุลระหว่างความหรูหรา ความล้ำสมัย และสมรรถนะสูงในแบบฉบับของ EQ Technology

ที่มา: Mercedes-Benz