Toyota Tundra มีรุ่นปี 2026 ตามมาแล้วที่สหรัฐฯ โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 ส่วนความพิเศษจะเน้นไปที่การปรับปรุงอุปกรณ์มาตรฐาน โดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย ทุกคันจะผลิตขึ้นที่โรงงานในรัฐ Texas สหรัฐฯ ทั้งยังมาพร้อมการรับประคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 36,000 ไมล์ (57,936 กิโลเมตร) สำหรับความเปลี่ยนแปลงภายนอก มีเฉพาะรุ่น TRD Pro ที่เพิ่มสีตัวถังใหม่กับสีฟ้า Wave Maker
ห้องโดยสารของ Toyota Tundra รุ่นปี 2026 มีระบบเชื่อมต่อ Toyota Audio Multimedia มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และสามารถเพิ่มเป็นรุ่น 14 นิ้วได้ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ส่วนการตกแต่งรูปแบบใหม่จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย อย่างในรุ่นย่อย Capstone เปลี่ยนไปใช้วัสดุหนัง Shale Premium ส่วนรุ่นย่อย Limited เปลี่ยนไปใช้หนังสีเทา – ดำ พร้อมเดินตะเข็บด้ายสีขาวและเทา ทุกรุ่นย่อยยังเพิ่มระบบปรับปรับอากาศ smartflow และเพิ่มช่องแอร์ตอนหลัง สำหรับรุ่น 4 ประตู
Toyota Tundra รุ่นปี 2026 ทุกรุ่นย่อย เปลี่ยนไปใช้ถังน้ำมันความจุ 121 ลิตร และไม่มีขนาดที่เล็กกว่าให้เลือกอีกต่อไป ส่วนขุมพลังมีให้เลือกด้วยกันสองแบบ ซึ่งทั้งคู่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ ECTi 10 จังหวะ รองรับการเปลี่ยนเกียร์แบบ Sequential ส่วนรายละเอียดขุมพลัง มีต่อไปนี้
- i-FORCE เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 389 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 649 นิวตันเมตร
- i-FORCE MAX เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.4 ลิตร เทอร์โบคู่ พ่วงระบบ Hybrid กำลังรวมสูงสุด 437 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดรวมสูงสุด 790 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที
Toyota Tundra รุ่นปี 2026 ทุกรุ่นย่อย ยังเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense 2.5 ซึ่งรวมถึงระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชนด้านหน้า ตรวจจับคนเดินถนนได้, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แปรผันตามรถยนต์คันหน้าได้ในทุกย่านความเร็ว, ระบบแจ้งเตือนรถยนต์ออกนอกช่องจราจร พร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าช่อง, ระบบจดจำป้ายจราจร และ ระบบไฟสูงอัตโนมัติ ส่วนราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ อยู่ระหว่าง 41,260 – 80,800 USD (ราว 1,338,000 – 2,620,000 บาท)
