BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ประกาศเริ่มส่งออกรถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทยไปยังตลาดยุโรปเป็นครั้งแรก โดยล็อตแรกเป็น BYD Dolphin จำนวนทั้งหมด 900 คัน ที่จะถูกส่งออกไปยังเยอรมนี เบลเยียม และสหราชอาณาจักร ผ่านการขนส่งด้วยเรือของบริษัทในเครือชื่อ BYD Zhengzhou ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เรือลำนี้ออกเดินทางจากประเทศไทยไปยังยุโรป
โรงงานประกอบรถยนต์ BYD แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 และนับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์นั่งแห่งแรกของ BYD นอกประเทศจีน โดยมีศักยภาพการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี เพื่อรองรับทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก
แม้จะถูกเรียกว่า “โรงงาน CKD” แต่ BYD ระบุว่าโรงงานแห่งนี้เป็นการลงทุนแบบ Fully-owned plant หรือโรงงานที่ BYD ถือครองเอง 100% แตกต่างจากโรงงาน CKD แห่งอื่นที่มักใช้วิธีนำเข้าชิ้นส่วนไปประกอบเพื่อลดภาษีนำเข้าและสร้างฐานการผลิตในท้องถิ่น จุดนี้สะท้อนถึงการมุ่งมั่นของ BYD ที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตระดับโลกในห่วงโซ่รถ EV
Ke Yubin ผู้จัดการทั่วไปของ BYD Thailand กล่าวถึงความสำเร็จนี้ว่า “หลังจากที่เราได้ทำยอดส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จากโณงงานแห่งนี้ครบ 90,000 คันไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 จึงได้เริ่มส่งออก Dolphin จากไทยไปยุโรปเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การขยายตลาดทั่วโลกของ BYD แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก”
สาเหตุสำคัญที่ BYD เลือกไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับการส่งออกยุโรป มาจากมาตรการของสหภาพยุโรปที่ประกาศเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุน (anti-subsidy tariff) กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากจีนเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน BYD ต้องแบกรับภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในอัตราส่วน 20.7% บวกกับภาษีนำเข้าปกติอีก 10% เมื่อส่งออกจากจีน ทำให้การผลิตในไทยและส่งตรงไปยุโรปช่วยลดต้นทุนด้านภาษีและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2025 BYD มียอดขายรถ BEV ในตลาดต่างประเทศรวม 545,003 คัน เพิ่มขึ้นถึง 133.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายทั่วโลกของรถยนต์นั่งโดยสารรวมทุกตลาดอยู่ที่ 2,458,914 คัน เพิ่มขึ้น 26.2% จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 341,030 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% YoY ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา สะท้อนว่าการเติบโตของ BYD เริ่มชะลอตัวในตลาดโลก
ที่มา: Carnewschina
