Kia EV5 รถยนต์ไฟฟ้า SUV สำหรับครอบครัว 5 ที่นั่ง ที่เปิดตัวในตลาดประเทศไทยซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน ขณะที่เวอร์ชั่นยุโรปจะนำเข้าจากเกาหลีใต้พร้อมเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่แบบ NMC แทน LFP ร่วมกับ EV3 และ EV4 เวอร์ชั่นยุโรป

 

มาพร้อมการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับอากาศพลศาสตร์อย่างจริงจัง โดยติดตั้ง Active Air Flaps บริเวณกันชนหน้า ที่สามารถเปิด-ปิดอัตโนมัติเพื่อปรับสมดุลระหว่างการระบายความร้อนและประสิทธิภาพการลู่ลม เสริมด้วยแผ่นปิดใต้ท้องรถเต็มคัน แผงบังคับลม และตัวเบี่ยงลมรอบซุ้มล้อเพื่อลดแรงต้าน นอกจากนี้ เส้นสายท้ายหลังทรง “boattail” ยังช่วยลดแรงลาก ทำให้ EV5 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.29Cd (หรือ 0.30Cd ในรุ่น GT-Line และ GT-Line S)

 

มิติของตัวรถมีความกว้าง 1,875 มม. ยาว 4,610 มม. สูง 1,675 มม. และฐานล้อ 2,750 มม. ใหญ่กว่า Kia Sportage เล็กน้อย โดยยาวกว่า 70 มม. กว้างกว่า 10 มม. และสูงกว่า 30 มม. พร้อมฐานล้อยาวกว่า 70 มม. ห้องโดยสารมาพร้อมพื้นที่เก็บของตรงคอนโซลกลางรวม 16.5 ลิตร และห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายปรับระดับพื้นได้ 100 มม. มีความจุ 566 ลิตร และขยายได้ถึง 1,650 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง อีกทั้งยังมีช่องเก็บของด้านหน้ารถ (frunk) ขนาด 44 ลิตร

 

ภายใน EV5 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น หน้าจอคู่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ ccNC รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เสริมด้วยหน้าจอควบคุมแอร์ขนาด 5.3 นิ้ว และ HUD ขนาด 12.3 นิ้วในรุ่นท็อป ไฮไลท์คือระบบผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่ทำงานด้วย ChatGPT รองรับการสั่งงานด้วยเสียง “Hey Kia” เพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง แนะนำจุดแวะพัก ให้ข้อมูลการใช้งานรถ รวมถึงมอบความบันเทิง เช่น เพลง เกม และคำถามตอบสนุก ๆ

 

นอกจากนี้ EV5 ยังรองรับระบบ Plug & Charge ที่ช่วยให้การชาร์จทำได้อัตโนมัติ รวมถึง Kia CarPay สำหรับค้นหาและชำระค่าที่จอดรถโดยตรงผ่านหน้าจอ อีกทั้งยังมีแพ็กเกจความบันเทิงที่ให้ผู้ขับและผู้โดยสารเข้าถึง Netflix Disney+ YouTube Amazon Music และเกมต่าง ๆ เมื่อรถจอดนิ่ง

ด้านความปลอดภัย Kia EV5 ติดตั้งระบบ ADAS ครบครัน เช่น Highway Driving Assist 2.0 Smart Cruise Control 2.0 ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Forward Collision-Avoidance Assist 2.0 Blind-Spot Assist และกล้องมองรอบคันในรุ่นสูงสุด พร้อมถุงลมนิรภัยรอบคันและระบบเตือนผู้ขับ

 

Kia EV5 โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวติดตั้งด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ให้กำลังสูงสุด 160 kW (214 แรงม้า) และแรงบิด 295 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 8.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 164 กม./ชม.

มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ NMC ความจุ 81.4 kWh ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับรุ่น EV3 และ EV4 ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 529 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP  ด้านระบบชาร์จ EV5 ใช้สถาปัตยกรรม E-GMP แบบ 400 โวลต์ รองรับการชาร์จเร็วไฟฟ้ากระแสตรง DC กำลังไฟฟ้า 150 kW โดยสามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที ขณะที่การชาร์จปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC กำลังไฟฟ้า 11 kW ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาทีสำหรับการชาร์จเต็ม 100% ซึ่งทำให้การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลเป็นไปอย่างสะดวกและมั่นใจยิ่งขึ้น

สำหรับตลาดสหราชอาณาจักร EV5 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • EV5 Air ราคาเริ่มต้น 39,295 ปอนด์ (ประมาณ 1,720,046 บาท) มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบละลายฟ้าตกแต่งด้วยไฟเลี้ยว LED มือจับประตูดีไซน์แบบ manual flush เสริมด้วยสเกิร์ตด้านข้างและซุ้มล้อสีดำ ตัดกับแถบตกแต่งประตูโครเมียมที่ช่วยยกระดับความพรีเมียม
  • EV5 GT-Line ราคาเริ่มต้น 42,595 ปอนด์ (ประมาณ 1,864,496 บาท) เพิ่มดีไซน์สปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ฝาท้ายไฟฟ้าและระบบ V2L มาพร้อมกระจกมองข้างสีดำเงา มือจับประตูแบบ automatic flush และไฟหน้า LED พร้อมฟังก์ชันปรับลำแสงอัตโนมัติ ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมและสเกิร์ตด้านข้างซุ้มล้อสีดำ เพิ่มความโฉบเฉี่ยวและความสปอร์ต ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งแบบ ‘GT-Line’ เบาะหนังเทียมสีทูโทน เบาะผู้โดยสารด้านหลังมีระบบอุ่น ส่วนเบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบดันหลังและฟังก์ชันจดจำตำแหน่งผู้ขับ แป้นเหยียบอะลูมิเนียมเพิ่มความสปอร์ตและความพรีเมียมให้กับการขับขี่ ช่องจ่ายไฟและที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย
  • EV5 GT-Line S ราคา 47,095 ปอนด์ (ประมาณ 2,061,472 บาท) รุ่นท็อปมาพร้อมซันรูฟ เบาะหน้าระบายอากาศและเบาะผู้ขับแบบพรีเมียมพร้อมฟังก์ชันพักผ่อน ระบบเครื่องเสียงจาก Harman Kardon จอ HUD แบบปรับแต่งได้ กล้องมองรอบคัน และ Remote Smart Parking Assist 2.0 สำหรับความปลอดภัยสูงสุด สามารถเลือกติดตั้งระบบ Heat Pump เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความร้อนและความเย็นภายในห้องโดยสาร

ที่มา: Kia EU