Audi กำลังเปิดศักราชใหม่ของดีไซน์และกลยุทธ์องค์กร ด้วยการเผยโฉม Audi Concept C ที่งานเปิดตัวในกรุงมิลาน ประเทศอิตาลีภายใต้แนวคิด “Strive for clarity” หรือ “มุ่งสู่ความชัดเจน” ซึ่งคือก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบยุคใหม่ของแบรนด์สี่ห่วง ที่ต้องการลดทอนสิ่งฟุ่มเฟือยให้เหลือเพียงแก่นแท้ของความงาม ความเรียบง่าย และคุณภาพสูงสุด พร้อมพัฒนาสู่เวอร์ชันจำหน่ายจริงในปี 2027 โดยทางค่ายยืนยันว่าโฉมจำหน่ายจริงจะแตกต่างจากรถต้นแบบเพียงเล็กน้อย เช่น การใส่มือจับประตู เซนเซอร์ และรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนเท่านั้น

 

Massimo Frascella ประธานฝ่ายสร้างสรรค์ของ Audi (อดีตจาก Jaguar Land Rover) ที่เข้ามาในปี 2024 โดยเขาต้องการให้ Audi ก้าวสู่ยุคแห่ง “radical simplicity” หรือความเรียบง่ายสุดขั้ว ตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกให้เหลือแต่แก่นแท้ ทั้งภายนอกและภายใน แรงบันดาลใจของ Concept C ถือเป็น “Greatest Hits” ของ Audi รวม DNA ของหลายตำนาน ไม่ว่าจะเป็น R8 รถต้นแบบ Avus ปี 1991 รถแข่ง Auto Union รวมถึง Rosemeyer Concept ปี 2000 ส่วนตัวถังมากับลูกเล่นที่สามารถเป็นได้ทั้งคูเป้และโรดสเตอร์ โดยใช้หลังคาไฟฟ้าแบบสองชิ้นถอดพับเก็บได้

 

ตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกับ R8 มากกว่า TT ด้วยมิติยาว 4,521 มม., กว้าง 1,981 มม., สูง 1,278 มม. และระยะฐานล้อ 2,568 มม. น้ำหนักตัว 1,690 กก. (ใกล้เคียง R8 Spyder) มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนขนาด 21 นิ้ว

 

ภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายแบบมินิมอล ใช้แนวคิด Shy Tech ที่ซ่อนเทคโนโลยีไม่ให้รบกวนสายตา หน้าจอ Infotainment ขนาด 10.4 นิ้ว สามารถเลื่อนเก็บเข้ากับคอนโซลได้ คล้ายกับ Audi รุ่นเก่า ๆ และยังคงมีปุ่มกดจริงทำจากอะลูมิเนียมอโนไดซ์ ตรงกันข้ามกับเทรนด์รถสมัยใหม่ที่พึ่งพาหน้าจอสัมผัสแทบทั้งหมด แม้กระทั่งโลโก้ 4 ห่วงบนพวงมาลัยก็ทำจากโลหะจริงเพื่อคุณภาพสัมผัสที่เหนือกว่า

 

Concept C มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้เทคโนโลยีร่วมกับ Porsche Boxster และ Cayman เจเนอเรชันใหม่ขุมพลังไฟฟ้าที่มีกำหนดเปิดตัวปี 2026 โดยทั้ง Audi และ Porsche ยืนยันแล้วว่าจะทำตลาดรุ่นใหม่ในรูปแบบ EV เท่านั้น ไม่มีเวอร์ชันเครื่องยนต์สันดาปอีกต่อไป

แม้หลายคนยังคาดหวังเครื่องยนต์เบนซินเพื่อรักษาความเร้าใจแบบดั้งเดิม แต่ Audi ชี้ว่า Concept C คือการพัฒนาที่สอดคล้องกับทิศทางใหม่ของแบรนด์ ซึ่งหวังจะสร้างกระแสเช่นเดียวกับการเปิดตัว TT Concept ในปี 1995

อย่างไรก็ตามข้อมูลงานวิศวกรรมพื้นฐานยังไม่ถูกเปิดเผย แต่มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมระบบไฟฟ้า 800 V รองรับการชาร์จเร็วพิเศษ

 

 

Audi Concept C เตรียมเปิดตัวสู่สาธารณะครั้งแรกในงาน IAA ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมันคือการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดของปรัชญาใหม่นี้ Gernot Döllner CEO ของ Audi ย้ำว่า “ความชัดเจนไม่ใช่แค่แนวทางการออกแบบ แต่เป็นหลักการขององค์กร” ปรัชญานี้จะถูกสะท้อนลงในผลิตภัณฑ์ โครงสร้างบริษัท และกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและคุณภาพในอนาคต

Audi กำลังอยู่ในช่วงของ Audi Agenda แผนปฏิรูปองค์กรที่เริ่มตั้งแต่ปี 2023 พร้อมการลงทุนกว่า 8 พันล้านยูโรในโรงงานเยอรมนีภายในปี 2029 และการเปิดตัวรถยนต์ใหม่กว่า 20 รุ่นภายในเวลา 24 เดือน ทำให้พอร์ตโฟลิโอของ Audi กลายเป็นหนึ่งในสายผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ที่สุดในเซกเมนต์พรีเมียม

นอกจากนี้ยังได้ยืนยันว่าในปี 2026 Audi จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้ง่ายรุ่นใหม่ ผลิตที่เมืองอินโกลชตัดท์ พร้อมด้วยรถสมรรถนะสูงจาก Audi Sport และยังเตรียมเข้าสู่เวที Formula 1 เพื่อทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในสนามแข่งที่ท้าทายที่สุดของโลก

ที่มา: Motor1