เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2025 Nissan อเมริกาเหนือเปิดตัว Sentra รุ่นใหม่ปี 2026 สานต่อตำนานรุ่นที่ครองใจผู้ใช้มายาวนานกว่า 40 ปี โดยล่าสุดยังได้รับการจัดอันดับเป็นรถยนต์ COmpact Sedan ที่มีคุณภาพดีที่สุดในสหรัฐฯ จากการสำรวจของสำนัก J.D. Power 2025 U.S. Initial Quality Study (IQS) นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐาน Nissan Safety Shield® 360 ขับขี่สนุกคล่องตัว และรุ่นตกแต่งแบบสปอร์ต SR ที่ยกระดับความเร้าใจเหนือความคาดหมาย Sentra ใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในโชว์รูมช่วงปลายปี 2025 นี้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 เกรด ได้แก่ S SV SR และ SL
ทีมออกแบบ Nissan วางแนวทางการสร้างสรรค์ Sentra ใหม่ด้วย 3 คำสำคัญคือ “กล้า–มีชีวิตชีวา–สะท้อนตัวตน” ทำให้ตัวรถดูทันสมัยและทรงพลังยิ่งขึ้น ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้า V-motion ดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมต่อกับลายเส้นไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED แบบเพรียวบางซึ่งให้แสงสว่างดีกว่ารุ่นก่อน ขณะเดียวกันยังออกแบบไฟ LED ให้กลมกลืนกับตัวรถ และเมื่อปลดล็อกรถ จะมีแอนิเมชันต้อนรับด้วยสัญญาณไฟต่างๆ ช่วยเสริมความรู้สึกไฮเทคตั้งแต่ก่อนเปิดประตู
อีกทั้งยังมีการออกแบบฝากระโปรงท้ายแบบ Fastback และกันชนหลังควบคุมการไหลเวียนของอากาศเพื่อลดแรงต้าน เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ พร้อมฝาครอบใต้ท้องรถและแผ่นรีดลมบริเวณล้อที่ช่วยให้การขับขี่เงียบและประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น
Sentra มีล้อให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 16 17 และ 18 นิ้ว โดยทุกแบบเน้นลวดลายที่มีเส้นตัดซ้อนเพื่อสร้างความรู้สึกเคลื่อนไหวแม้ยามจอดนิ่ง ส่วนตัวถังมีสีสันโดดเด่น เช่น สีน้ำตาล Imperial Bronze สีแดง Scarlet Ember สีขาว Aspen White รวมถึงตัวเลือกสีทูโทนหลังคาดำ Super Black
ภายในห้องโดยสารของ Sentra ใหม่ออกแบบให้โปร่งและหรูหรายิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยหน้าจอมาตรวัดแสดงผลการขับขี่และ Infotainment คู่ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ถือว่าเป็นระดับหัวแถวในคลาสและแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบสัมผัสที่เป็นครั้งแรกในกลุ่ม แผงหน้าปัดใหม่มีความสว่างมากขึ้นถึงสองเท่าเพื่อการมองเห็นชัดเจนในทุกสภาพแสง พร้อมยังคงให้ปุ่มกดสำหรับฟังก์ชันพื้นฐานไว้เพื่อความสะดวก ทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 60/40
ในรุ่น SV ขึ้นไป รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย ขณะที่รุ่นท็อป SL และ SR Premium เพิ่มระบบเครื่องเสียง Bose® 8 ลำโพง หลังคากระจก Panoramic roof เบาะนั่งหุ้มหนังตกแต่งผ้า Suede และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient light ในห้องโดยสารปรับได้สูงสุด 64 สี
Nissan ปรับดีไซน์ช่องเก็บสัมภาระท้ายให้ใช้งานง่ายขึ้นด้วยความสูงขอบฝากระโปรงที่ต่ำลงและช่องเปิดสัมภาระที่กว้างขวาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Nissan Intelligent Key® ที่ปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เดินเข้ามาใกล้ตัวรถและล็อกให้อัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกไป รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ myQ Universal Garage Door Opener ที่ควบคุมประตูโรงรถได้ผ่านจอ Infotainment
ในสองรุ่นท๊อปอย่างรุ่น SR ยังคงเน้นความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยกันชนหน้าและหลังดีไซน์เฉพาะ กระจังหน้าโครเมียมสีเข้ม สเกิร์ตข้างสีดำ สปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอย 18 นิ้วสีดำปัดเงา ส่วนรุ่น SL กลับมามีให้เลือกอีกครั้ง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ตกแต่งโดยเน้นความหรูด้วยพวงมาลัยระบบอุ่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกซ้าย-ขวา แผงยังแดดพร้อมไฟส่องสว่าง ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร หลังคาซันรูฟไฟฟ้า และเบาะหุ้มด้วยหนัง TailorFit™ ลายสุดพิเศษ ทั้ง 2 รุ่นยังมาพร้อมที่พักแขนด้านหลัง ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายและ Wi-Fi Hotspot
Sentra รุ่นปี 2026 มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยมาตรฐานครบถ้วน เช่น Blind Spot Intervention Rear Door Alert Intelligent Driver Alertness Intelligent Cruise Control Automatic Emergency Braking Intelligent Forward Collision Warning และ Lane Departure Prevention พร้อมถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมี ProPILOT Assist สำหรับช่วยควบคุมความเร็ว เบรก และพวงมาลัยในสภาพการจราจรติดขัดหรือไฮเวย์สำหรับรุ่น SL และ SR (ออฟชั่นเสริม)
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์รหัส MR20DD เบนซิน 4 สูบ DOCH 16 วาล์ว 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ไม่มีระบบอัดอากาศ กำลังสูงสุด 151 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการเร่งที่เป็นธรรมชาติและนุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่สปอร์ตสำหรับรุ่น SV SR และ SL
โครงสร้างตัวถังถูกเสริมความแข็งแกร่งมากขึ้น 6% จากรุ่นก่อน ทำให้ Sentra ใหม่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม ระบบกันสะเทือนหน้าแมคเฟอร์สันสตรัทและหลังมัลติลิงก์ พร้อมดิสก์เบรกติดตั้งครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมทุกการขับขี่และระบบ Active Ride Control
ที่มา: Nissan
