มีการเผยแพร่ภาพห้องโดยสารของ Porsche Cayenne Electric มาให้ชมกันแล้วเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 เผยให้เห็นงานออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย และรองรับการตกแต่งได้มากกว่าที่เคย ทั้งยังมีจุดเด่นเป็นระบบแสดงผลขนาดใหญ่ Flow Display ซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Porsche เบาะหลังเป็นแบบปรับพับไฟฟ้าในทุกรุ่นย่อย ทั้งยังมี Mood Modes สำหรับสร้างประสบการณ์ใหม่ของการโดยสาร ที่ระบบจะปรับแสง, อุณหภูมิ, เสียง และตำแหน่งเบาะให้ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ
Porsche Cayenne Electric มีหลังคากระจก Panoramic Roof ที่บานใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีใน Porsche สไลด์เปิดปิดได้ และปรับระดับความเข้มของการกรองแสงไฟฟ้า liquid crystal film ได้ตั้งแต่โปร่งใส ไปจนถึงความเข้ม 40 และ 60% ส่วนระบบอุ่นไม่ได้มีแค่เบาะเท่านั้น แต่ยังเพิ่มบริเวณที่เท้าแขนและแผงประตูด้วย ในส่วนของการตกแต่งมีสีให้เลือกเริ่มต้นถึง 13 แบบ พร้อมแพคเกจภายใน 4 รูปแบบ และสีที่ใช้ขลิบอีก 5 แบบ เสริมด้วยวัสดุตกแต่งใหม่ รวมถึงสีใหม่อย่าง สีเทา Magnesium Grey, สีม่วง Lavender และสีเทา Sage Grey
ระบบแสดงผลแบบ Flow Display ใน Porsche Cayenne Electric เป็นจอโค้ง OLED ที่ผสานเป็นส่วนหนึ่งของคอลโซลกลางใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Porsche ส่วนมาตรวัดดิจิตอลเป็นจอ OLED ขนาด 14.25 นิ้ว และยังสั่งติดตั้งจอฝั่งผู้โดยสารหน้าขนาด 14.9 นิ้ว และระบบแสดงผลเสมือนจริง head up display ขนาด 8.7 นิ้วเพิ่มได้ นอกจากนั้น ยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง AI Voice Pilot รองรับการสั่งการควบคุมระบบต่างๆ ทั้งยังมีกุญแจ Digital Key ใช้ smartphone หรือ smartwatch แทนกุญแจรถได้ และสามารถแชร์กับผู้ใช้งานคนอื่นได้
ในช่วงเดียวกันนั้น ยังมีการปล่อยรถทดสอบให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกัน พร้อมเผยข้อมูลบางส่วนของรุ่น Porsche Cayenne Turbo Electric ซึ่งมาพร้อมกับงานวิศวกรรมแบบ PPE เสริมด้วยแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดขนาด 113 kWh รองรับการชาร์จสูงสุด 400 kW ใช้เวลาราว 16 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 600 กิโลเมตร ส่วนสมรรถนะรุ่นที่แรงสุดจะเป็น Porsche ที่มีพละกำลังสูงสุดของค่าย เอาชนะ Taycan Turbo GT ซึ่งมี 1,019 แรงม้า ส่วนแรงบิดรวมสูงสุดอยู่ที่ 1,500 นิวตันเมตร
Porsche Cayenne Turbo Electric เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.0 วินาที และเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8 วินาที มอเตอร์หลังระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ติดตั้งค่อนมาทางด้านหลัง เพื่อให้มีอัตราการกระจายน้ำหนัก หน้า:หลัง ในสัดส่วน 48:52 ตัวแบตเตอรี่ยังผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวถัง ช่วยรีดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถัง ทั้งจะยังเป็น EV รุ่นแรกของโลกที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งเพิ่ม
ระบบส่งกำลังของ Porsche Cayenne Turbo Electric เป็นเกียร์ 1 จังหวะ ไม่เหมือนกับ Porsche Taycan ที่ใช้เกียร์ 2 จังหวะ ส่วนช่วงล่างเป็นแบบถุงลม Porsche Active Ride ด้านหน้าเป็น four-link ด้านหลังเป็น multi-link ซึ่งคล้ายกับของ Taycan รวมถึง Panamera แต่ขยายขนาดโช๊คอัพและปรับแต่งใหม่โดยเฉพาะ พร้อมทำงานร่วมกับระบบ Porsche Active Suspension Management ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม คอยติดตามการเปิดตัวที่จะมีขึ้นภายในสิ้นปี 2025
