Tesla เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ราคาถูกลงของ Model 3 ชื่อรุ่น Standard สำหรับ Model Year 2026 ซึ่งถือเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Model 3 ที่ถูกที่สุดในปัจจุบัน ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 36,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท ก่อนหักส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระยะทางวิ่งสูงสุด 321 ไมล์ (ราว 517 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เช่นเดียวกับรุ่น Premium RWD ทำให้เป็น Tesla ที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในปี 2025–2026
ถึงแม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่ Model 3 Standard ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพตามแบบฉบับ Tesla ไว้อย่างครบถ้วน ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุผ้า Textile ผสมหนังสังเคราะห์ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานและระบบเครื่องเสียง 7 ลำโพง โดยตัดอุปกรณ์บางส่วนออก เช่น ลำโพงซับวูฟเฟอร์ หน้าจอผู้โดยสารตอนหลัง ระบบช่วงล่างแบบ Active Dampers และไฟ Ambient เพื่อควบคุมต้นทุนให้เข้าถึงได้มากขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้กระจกมองข้างแบบพับด้วยอัตโนมือแทน ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกเพียง 3 สี ได้แก่ Stealth Grey (มาตรฐาน) Pearl White (+1,000 เหรียญสหรัฐฯ) และ Diamond Black (+1,500 เหรียญสหรัฐฯ) และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลายใหม่
รุ่นใหม่นี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการผ่านหน้าเว็บไซต์ Tesla ในสหรัฐฯ โดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า ถือเป็นครั้งแรกที่ Tesla นำ Model 3 รุ่นปรับโฉม “Highland” มาทำราคาลงอยู่ในระดับตัวเลข 30,000 เหรียญสหรัฐฯ (ถึงแม้จะยังไม่ถูกไปจนต่ำกว่า 35,000 เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถไฟฟ้าในราคาย่อมเยาได้มากขึ้น นอกจากนี้ Tesla ยังได้ปรับโครงสร้างรุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ Premium RWD ราคา 42,490 เหรียญสหรัฐฯ Premium AWD ราคา 47,490 เหรียญสหรัฐฯ และ Performance ราคา 54,490 เหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Model 3 Standard ยังไม่สามารถเข้าร่วมโครงการลดหย่อนภาษี EV Tax Credit ของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ ส่งผลให้ราคาหลังรวมค่าขนส่งและค่าดำเนินการอยู่ที่ประมาณ 38,630 เหรียญสหรัฐฯซึ่งสูงกว่าจุดราคาที่หลายคนคาดหวังไว้ว่า Tesla จะกลับมาสู่ระดับ “รถไฟฟ้า 35,000 เหรียญสหรัฐฯ” ที่เคยให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเทียบกับสมรรถนะและระยะทางวิ่งที่มากกว่า EV ส่วนใหญ่ในช่วงราคานี้ ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก
Tesla Model 3 Standard ยังคงได้เปรียบในด้านระบบชาร์จเร็ว Supercharger ที่สามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 170 ไมล์ในเวลาเพียง 15 นาที ซึ่งเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งยังตามได้ยาก ถึงแม้จะลดสเปกบางส่วน แต่ด้วยเครือข่ายสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วสหรัฐฯ จึงยังเป็นรถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การเดินทางจริงได้ดีกว่ารถ EV ราคาประหยัดหลายรุ่นในตลาด
Model 3 Standard จะต้องเผชิญการแข่งขันโดยตรงกับกลุ่ม EV ราคากลาง เช่น Kia EV3 Kia EV4 Nissan Leaf รุ่นใหม่ และ Chevrolet Bolt รุ่นปรับโฉม ซึ่งต่างชูจุดขายด้านความคุ้มค่าและระยะทางวิ่งเช่นเดียวกัน ขณะที่ Tesla เองยังไม่มีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ระดับเริ่มต้น 25,000 ดอลลาร์ในเร็ว ๆ นี้ หลัง Elon Musk หันไปให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI มากขึ้น ทำให้ Model 3 Standard กลายเป็น “หมากสำคัญ” ที่จะรักษาการเติบโตของ Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันดุเดือดมากที่สุดในโลกเวลานี้
ที่มา: InsideEVS
