Nissan เปิดตัว Leaf รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการเวอร์ชั่นตลาดญี่ปุ่น หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในยุโรปและอเมริกาเหนือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยรุ่นใหม่นี้ยังคงยึดดีไซน์และเทคโนโลยีระดับโลกเอาไว้ แต่เพิ่มรายละเอียดเฉพาะตลาดญี่ปุ่น รวมถึงการเพิ่มรุ่นตกแต่งสปอร์ตสไตล์พรีเมี่ยมอย่าง Autech ตามแบบฉบับ Nissan ยุคใหม่

 

ตัวรถมีความยาว 4,360 มม. ซึ่งสั้นกว่ารุ่นอเมริกัน 44 มม. และตัดไฟเลี้ยวสีส้มออกไปเช่นเดียวกับเวอร์ชั่นยุโรป ส่วนดีไซน์โดยรวมยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่โดดเด่นด้วยไฟท้าย LED ดีไซน์แบบเดียวกับ Nissan Z เพิ่มความเฉียบคมให้กับด้านท้ายของตัวรถ

 

ภายในห้องโดยสาร Nissan Leaf เวอร์ชั่นญี่ปุ่นติดตั้งหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว แต่ไม่มีหน้าจอขนาดใหญ่ 14.3 นิ้วให้เลือกแบบในตลาดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม Nissan ได้ชดเชยด้วยการเพิ่มอุปกรณ์พรีเมียม เช่น หลังคากระจกพาโนรามาที่ปรับความทึบแสงได้ ระบบเสียง Bose Plus 10 ลำโพง และเทคโนโลยี V2H (Vehicle to Home) ที่สามารถจ่ายไฟกลับไปยังบ้านและอุปกรณ์ต่างๆ ได้

 

สำหรับรุ่นแต่งพิเศษ Leaf Autech มาพร้อมชุดตกแต่งรอบคันที่ให้บุคลิกสปอร์ตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าพร้อมสเกิร์ตตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมตามแบบฉบับ Autech ขอบกระจกมองข้างและสเกิร์ตข้างสีเงินเงา กระจังหน้าสีดำ ไฟเดย์ไลท์สีฟ้า และตรา Autech รอบคัน เสริมด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วที่ออกแบบเฉพาะรุ่น พร้อมตัวถังสีน้ำเงิน Deep Ocean Blue หลังคาสีดำ Super Black หรือสี Prism White และ Midnight Black ให้เลือก

 

ห้องโดยสารของรุ่น Autech มาในธีมเข้มขรึม เลือกใช้วัสดุหนังสีดำเดินด้ายตะเข็บสีฟ้า เบาะนั่งมีลายปักโลโก้ Autech และเข็มขัดนิรภัยเฉพาะรุ่น พร้อมพรมพื้นแบบสั่งทำพิเศษ แม้จะไม่มีจอคู่ขนาดใหญ่แบบตลาดโลก แต่ยังคงให้ฟีเจอร์ครบ เช่น เบาะหลังพร้อมระบบอุ่น

 

ในช่วงเปิดตัว Leaf รุ่นญี่ปุ่นจะจำหน่ายเฉพาะรุ่น B7 แบ่งเป็น 2 เกรดคือ X และ G ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 355 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 78 kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 702 กม. ตามมาตรฐานญี่ปุ่น WLTC (เทียบกับ WLTP ของยุโรปได้ 604 กม. และ EPA ของสหรัฐฯได้ 488 กม.) รุ่น Autech ใช้ระบบขับเคลื่อนเดียวกัน ไม่มีการเพิ่มแรงม้าหรือปรับแต่งช่วงล่างเพิ่มเติม

 

Nissan ยังมีแผนเปิดตัวรุ่นเริ่มต้น B5 ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าและกำลังน้อยกว่าในภายหลัง พร้อมเวอร์ชัน Autech B5 สำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์สปอร์ตโดยไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นท็อป

 

ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นเริ่มต้นที่ 5,188,700 เยน (ประมาณ 1,107,314 บาท) สำหรับรุ่น B7 X และ 5,999,400 เยน (ประมาณ 1,280,324 บาท) สำหรับรุ่น B7 G ขณะที่รุ่น Autech เริ่มต้นที่ 6,513,100 เยน (ประมาณ 1,389,823 บาท) โดยมีกำหนดเริ่มส่งมอบในช่วงต้นปี 2026

 

ส่วนตลาดสหรัฐฯ ยังคงวางราคาในระดับที่เข้าถึงง่ายกว่าตลาดบ้านเกิด โดย Nissan Leaf S รุ่นเริ่มต้นที่ 25,360 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 826,228 บาท) และรุ่น Platinum+ ท็อปสุดอยู่ที่ 38,990 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,270,684 บาท) สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางกลยุทธ์ของ Nissan ที่ต้องการวางรุ่นญี่ปุ่นให้ดูพรีเมียมและหรูหรากว่าตลาดอื่นทั่วโลก

ที่มา: Carscoops