Alfa Romeo ปรับโฉม Crossover รุ่นชูโรงของค่ายอย่าง Tonale แฝดคนละฝากับ Dodge Hornet ที่มียอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 23% ในสหรัฐฯ ทางค่ายงูกินเด็กจึงได้ปรับกระจังหน้าใหม่แบบ scudetto ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 33 Stradale เพิ่มเส้นแนวนอนสำหรับซี่กระจังที่มาพร้อมกรอบสีดำเงาเพิ่มความดุกัน เช่นเดียวกับกันชนหน้าและกันชนหลังที่ปรับลุคให้ดูทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยลายใหม่และตราสัญลักษณ์แบบใหม่ล่าสุด

 

ตัวรถยังมาพร้อมสีตัวถังใหม่ถึง 3 สี ได้แก่ สีแดง Rosso Brera สีเขียว Verde Monza และสีเหลือง Giallo Ocra พร้อมกับหลังคาสีดำเพื่อเพิ่มความดุดันยิ่งขึ้น

 

ห้องโดยสารถูกปรับปรุงให้ดูพรีเมียมขึ้น ภายในมีการเพิ่มตะเข็บด้ายตัดกันบนแผงคอนโซลหน้า แผงประตู และที่วางแขน ขณะที่ลูกค้าสามารถเลือกห้องโดยสารที่มาพร้อมวัสดุหนังสีแดงได้เป็นครั้งแรก เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตหรูยิ่งกว่าเดิม

 

ฝั่งทีมประชาสัมพันธ์ของยุโรปเผยว่า Tonale รุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่และปุ่มหมุนควบคุมเกียร์แบบโรตารี่ ซึ่งคาดว่าจะถูกติดตั้งในรุ่นสเปกสหรัฐฯ การปรับงานออกแบบครั้งนี้ช่วยให้ห้องโดยสารดูทันสมัยและใช้งานสะดวกขึ้นโดยไม่เสียเอกลักษณ์ของแบรนด์อิตาเลียน

 

สำหรับตลาดสหรัฐฯ รุ่นเครื่องยนต์ Plug-in hybrid (PHEV) ที่ถูกยกเลิกออกจากไลน์ผลิตอย่างเป็นทางการ เหลือเพียงขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน เดิมรุ่น PHEV ให้พลังกำลังรวม 285 แรงม้าและสามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางสูงสุด 53 กม.

 

รุ่นย่อยในสหรัฐฯ ถูกลดเหลือเพียง 3 ระดับ ได้แก่ Sprint Veloce และรุ่นพิเศษใหม่ Sport Speciale โดยรุ่น Sprint ตกแต่งด้วยไฟหน้า LED ล้ออัลลอย 18 นิ้ว คิ้วกันชนสีดำเงา เบาะผ้าพร้อมโลโก้ Biscione และแป้นเหยียบอะลูมิเนียม ส่วนรุ่น Veloce ยกระดับความหรูด้วยช่วงล่างปรับโหมดได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว คาลิเปอร์เบรกจาก Brembo สีแดง ฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบ Hands-free และเบาะหนังเจาะรูพร้อมระบบระบายอากาศ

 

รุ่นบนสุด Sport Speciale โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วดีไซน์ 3 ช่องพร้อมคาลิเปอร์เบรกจาก Brembo สีดำเงา ตกแต่งภายนอกด้วยโทนสีเงินพิเศษและห้องโดยสารภายในบุวัสดุ Alcantara สีดำ-ขาวมุก พร้อมแผงแดชบอร์ดหุ้ม Alcantara ทั้งชิ้น ให้ความรู้สึกหรูหราและสปอร์ตในเวลาเดียวกัน Tonale รุ่นปี 2026 จะเริ่มจำหน่ายในโชว์รูมสหรัฐฯ ช่วงปลายปี 2025 นี้ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมและราคาจะประกาศใกล้วันเปิดตัวจริง

 

ในขณะที่รุ่นยุโรปยังคงมีทางเลือกขุมพลังที่หลากหลายกว่าและผ่านมาตรฐานไอเสียใหม่ Euro 6E-bis โดยมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์และ Hybrid ให้พละกำลังสูงสุด 173 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า เจับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้าเช่นเดียวกัน ส่วนรุ่น PHEV ยังมีจำหน่ายในยุโรปต่อไป โดยมีให้เลือกสองระดับกำลัง 187 และ 266 แรงม้า

ที่มา: Carscoops