Horse Powertrain บริษัทร่วมทุนระหว่าง Geely และ Renault ยกระดับกลยุทธ์ด้านระบบส่งกำลังด้วยการเปิดตัว “Future Hybrid System” ที่จะเริ่มวางอยู่ในแบรนด์รถยนต์ภายในเครือตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับงานวิศวกรรมพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่มีอยู่ ทั้งขุมพลัง Hybrid หรือระบบขยายระยะทาง (EREV) ได้โดยไม่ต้องพัฒนาโครงสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น แนวคิดนี้ถูกเผยครั้งแรกในงาน Shanghai Auto Show 2025 ก่อนจะต่อยอดและเปิดตัวฉบับใกล้ผลิตจริงที่ IAA Munich ในปีเดียวกัน
หัวใจสำคัญของขุมพลังรุ่นใหม่นี้ คือการรวมเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบไฟฟ้ากำลัง เข้าไว้ในโมดูลขนาดกะทัดรัด มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ รุ่นสมรรถนะสูงแบบมอเตอร์คู่ P1+P3 และรุ่นซูเปอร์คอมแพ็กต์แบบมอเตอร์ P2 ทั้ง 2 แบบสามารถทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร โดยการจัดวางที่กินพื้นที่น้อยช่วยลดระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหน้าของตัวรถที่ติดตั้งได้ประมาณ 150 มม. ทำให้สามารถติดตั้งลงในซับเฟรมของรถ EV เดิมได้แบบไม่ต้องปรับโครงสร้างตัวรถ
นอกเหนือจากความยืดหยุ่นด้านขนาดแล้ว ขุมพลัง Future Hybrid System ยังรองรับการดัดแปลงได้หลากหลายรูปแบบระบบขับเคลื่อน ตั้งแต่ Plug-in hybrid (PHEV) ไปจนถึงระบบขยายระยะทาง (EREV) และสามารถปรับใช้กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือสี่ล้อ ในรถขนาดเล็กได้
อีกจุดเด่นที่สำคัญคือรองรับเชื้อเพลิงได้หลายประเภท ทั้งน้ำมันเบนซิน E85 เอทานอล M100 เมทานอล และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่กำลังเป็นกระแสนิยม สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาขุมพลังที่ยืดหยุ่นและลดคาร์บอนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ 3 สูบที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะมีขนาดเล็กลงไปอีกขั้น
ด้วยขนาดกะทัดรัดและรองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลาย ขุมพลัง Future Hybrid System จึงมีส่วนช่วยให้ค่ายรถสามารถปรับรายละเอียดของรถยนต์ขุมพลังไฟฟ้าบนงานวิศวกรรมพื้นฐานปัจจุบันให้กลายเป็นรุ่น EREV ได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายการวิจัยและออกแบบใหม่ ซึ่งอาจเป็นคำตอบสำหรับตลาดที่ยังต้องการความยืดหยุ่นตามโครงสร้างพื้นฐานและราคาน้ำมันที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
Horse Powertrain เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2023 ปัจจุบันมีโรงงานผลิต 17 แห่ง ศูนย์วิจัย 5 แห่ง และบุคลากรราว 19,000 คน การเปิดตัวระบบ Hybrid รุ่นใหม่นี้จึงสะท้อนทิศทางสำคัญของอุตสาหกรรม พร้อมที่จะขยายโอกาสในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังปรับตัวสู่ความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ระยะทาง และความคุ้มค่า
ที่มา: Carnewschina
